ปรับหมากกลยุทธ์ ภาคบ่าย – บล.เอเซีย พลัส
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส สรุปทิศทางและแนวโน้มตลาดบ่ายนี้
ส่งออกเดือน เม.ย.อ8 ยังคงหดตัวอีก 1.7% แต่เชื่อว่าตลาดตอบรับข่าวลบนี้ไปเยอะมากแล้ว และนับจากนี้มีโอกาสเห็นการส่งออกฟื้นตัวตามการอ่อนค่าของเงินบาท กลยุทธ์ยังเน้นหุ้นส่งออก HANA, TUF และหุ้นที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ RCL, VNG, IRPC
มุมมองและการวิเคราะห์
– ตลาดหุ้นเอเซียที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ยังคงสามารถยืนอยู่ในแดนบวกได้ เริ่มจากตลาดหุ้นฮ่องกงที่ปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดในภูมิภาค 1.27% ตามมาด้วยตลาดหุ้นจีนที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตยังคงปรับเพิ่มขึ้นร้อนแรง 6 วันติดต่อกันโดยวันนี้บวก 1.44% และดัชนีนิคเคอิของญี่ปุ่นที่ปรับเพิ่มเล็กน้อย 0.12% แต่เป็นการเพิ่มขึ้น 3 วันติดต่อกัน สำหรับหุ้นในกลุ่ม TlP วันนี้เริ่มฟื้นตัวได้เล็กน้อย เริ่มจากตลาดหุ้นอินโดนิเซียปรับเพิ่มขึ้น 1% และ SET lndex ของไทยฟื้นได้เล็กน้อย 0.13% สวนทางกับตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ปรับลดลง 0.95% ซึ่งเป็นการปรับลดลงต่อเนื่อง 4 วันติดต่อกัน
– SET lndex ช่วงเช้าปิดที่ 1,509.05 จุด เพิ่มขึ้น 0.89 จุด ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.41 หมื่นล้านบาท โดยวันนี้กลุ่ม Big Cap อย่างกลุ่มพลังงานปรับเพิ่มขึ้นมา 0.36% โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม PTT สามารถทยอยฟื้นตัวได้ (หุ้น PTT PTTEP TOP lRPC ที่เริ่มทยอยฟื้นตัวขึ้นได้) มีผลให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นได้ 0.92 จุด เช่นเดียวกับกลุ่ม ธ.พ.ที่ปรับเพิ่มขึ้น 0.23% (ส่งผลให้ดัชนีปรับเพิ่มขึ้น 0.53 จุด) ขณะที่หุ้นหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังคงปรับไม่ฟื้นและปรับลดลงต่อ เช่น หุ้นในกลุ่มสื่อสารฯ (ปรับลดลง 0.15%) กลุ่มรับเหมาฯ (ปรับลดลง 0.19%) และกลุ่มไฟแนนซ์ (ปรับลดลง 0.09%) ซึ่งทำให้ภาพการฟื้นตัวของ SET lndex ยังคงเปราะบาง
– สัญญานการชะลอตัวเศรษฐกิจไทยยังชัดเจนต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดส่งออก เดือน เม.ย. มีมูลค่า 16,900 ล้านเหรียญ – 1.7%yoy ติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 (ม.ค. – 3.5% ก.พ. -6.1% มี.ค. -4.45%) ทำให้ 4 เดือนแรกการส่งออกมีมูลค่า 70,265 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบ 3.99% yoy ขณะที่การนำเข้าลดลง ในอัตรามากกว่าการส่งออกคือ เดือน เม.ย. มีมูลค่า 17,423 ล้านเหรียญสหรัฐฯ -6.84%yoy และทำให้ 4 เดือนแรกของปีการนำเข้ามีมูลค่า 69,359 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ติดลบกว่า -6.53%yoy (ม.ค. -13.3% เดือนก.พ. +1.5% มี.ค. -5.89%)
ส่งผลให้ดุลการค้าเดือนเมษายน 2558 ขาดดุล 523 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ไทยเกินดุลการค้า 906 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยสถานการณ์การส่งออกของไทย แม้จะยังคงหดตัวแต่ก็เป็นไปในอัตราที่ลดลง ทั้งสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ก.พาณิชย์ ยังคงเป้าส่งออกปีนี้ไว้ที่ +1.2% เนื่องจากมีสัญญาณที่ดีขึ้น ได้แก่ การนำเข้าของประเทศคู่ค้าสำคัญเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว การเร่งรัดผลักดันการส่งออก ตามนโยบายของรัฐบาล รวมไปถึงการลดดอกเบี้ย ที่ส่งผลให้ค่าเงนบาทมีการปรับตัวอ่อนค่าลง และมีแนวโน้มอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น จากอุปทานในตลาดโลกที่เริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ในส่วนของฝ่ายวิจัย ASPS ยังคงเป้าการส่งออกสินค้าปี 2558 ไว้ที่ 0.5% และ ปรับลดการนำเข้าสินค้าเหลือ 1.7% และทำให้โดยรวม ASP คาดว่า GDP Growth ไทยในปี 2558 จะขยายตัวได้ 2.5%
กลยุทธ์การลงทุน Investment Tactic : กลยุทธ์ยังเน้นเป็นรายหุ้นหุ้นที่มีกำไรฟื้นตัวต่อเนื่องในปีนี้ (RCL, VNG, lRPC) เลือก VNG ([email protected]) เป็น Top Pick
– หุ้นเด่นเดือน พ.ค.58 AAV BEAUTY BJCHl lCHl SYNTEC THCOM และ WORK
– หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า HANA, SVl, KCE, VNG, TUF
– หุ้นปันผลเด่นที่จะเป็นทางเลือกยามดอกเบี้ยขาลง ASK BTS lNTUCH
– หุ้นผลประกอบการฟื้นตัว มองพลังงานที่ยัง Laggards PTTEP, PTTGC
– Portfolio Update : ASK, SVl, BJCHl, PTTGC