หุ้นเอเชียร่วงยกแผง รับแรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐ-จีนต่อเนื่อง หวั่นกระทบเศรษฐกิจโลก
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงยกแผง รับแรงกดดันสงครามการค้าสหรัฐ-จีนต่อเนื่อง หวั่นกระทบเศรษฐกิจโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจาก ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุด เมื่อคืนวันที่ 23 มี.ค. เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยความกังวลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่พุ่งสูงสุดรอบ 8 เดือน รวมถึงการที่สหรัฐเลี่ยงชัตดาวน์ครั้งที่ 3 ในปีนี้ได้ หลังปธน.ทรัมป์ลงนามร่างงบประมาณ 1.3 ล้านล้านดอลลาร์
โดย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 424.69 จุด หรือ -1.77 ปิดที่ 23,533.20 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในปีนี้ ดัชนี S&P500 ลดลง 55.43 จุด หรือ -2.10% ปิดที่ 2,588.26 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 174.01 จุด หรือ -2.43% ปิดที่ 6,992.67 จุด
ขณะเดียวกัน ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,423.37 จุด ลดลง 194.49 จุด, -0.94% ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,117.32 จุด ลดลง 35.44 จุด, -1.12% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 30,267.07 จุด ลดลง 42.22 จุด, -0.14%
อีกทั้ง ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,783.57 จุด ลดลง 39.76 จุด, -0.37% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,414.68 จุด ลดลง 2.08 จุด, -0.09% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,400.95 จุด ลดลง 20.44 จุด, -0.60% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,860.88 จุด ลดลง 4.34 จุด, -0.23%
ทั้งนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันต่อเนื่องภายหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ ด้านรัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ โดยพุ่งเป้าเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐจำนวน 128 รายการ