โบรกฯ แนะ “Selective Buy” 4 ธีมหุ้นน่าลงทุน พร้อมจับตา 3 ประเด็นเด็ดวันนี้

โบรกฯ แนะ “Selective Buy” 4 ธีมหุ้นน่าลงทุน พร้อมจับตา 3 ประเด็นเด็ดวันนี้


บล.กรุงศรี ระบุว่า ประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,785 – 1,805 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดยังคงถูกแรงกดดันจากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ และจีนตอบโต้ด้วยการประกาศมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งนโยบายกีดกันการค้านี้อาจจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจโลก

อย่างไรก็ตามคาดว่า SET จะย่อตัวจะไม่รุนแรงและมีสลับเด้งรีบาวด์เนื่องจากแรงหนุนราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นเหนือ 66 US/Barrel หลังซาอุฯเสนอให้กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตต่อไปจนถึงปี 2562  รวมถึงการทำ Window dressing ปิด NAV ไตรมาส 1/61 ในสัปดาห์นี้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำ Selective Buy ดังนี้

กลุ่ม Defensive Stock เช่น ค้าปลีก (CPALL HMPRO)  โรงพยาบาล (BCH BDMS BH) สื่อสาร (ADVANC INTUCH)

กลุ่มพลังงานและปิโตรฯ (PTTEP IRPC PTTGC IVL ) คาดกำไร Q1/18 ยังคงเติบโต รวมถึงราคาน้ำมันทรงตัวเหนือ 66 US/Barrel

TVO ราคากากถั่วเหลืองดีดตัวขึ้นล่า 383 US/ตัน Demand จีนยังแข็งแกร่ง

กลุ่มเครื่องดื่ม (HTC CBG ) อานิสงส์ราคาน้ำตาลลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีล่าสุด 12.6 cent/pound

ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้ : PTTGC (ปิด 98.5 ซื้อ/เป้า 115) คาดกำไรสุทธิในปีนี้จะพุ่งทำสถิติสูงสุดได้เป็นประวัติการณ์อีก 1 ปี จากแรงหนุนของปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น โดยปีนี้ PTTGC มีแผนเปิดโครงการใหม่ 2 โครงการ คือ โครงการ mLLDPE เริ่มผลิตไตรมาส 1/61 และ โครงการ ME หน่วยที่ 2 เริ่มผลิตไตรมาส 4/61

ขณะที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากความต้องการที่สูงขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยปีนี้เราคาดกำไรสุทธิประมาณ 4.6 หมื่นล้านบาทเพิ่มขึ้น 14%

ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตดีปี 61 ธนาคาร, พลังงาน, อาหารและเครื่องดื่ม และ อสังหาริมทรัพย์

Top picks ปีนี้ : ANAN, BANPU, BBL, BCH, IVL, HTC, MINT, PTTGC, SPALI and TMB

KSS report วันนี้ : QH (ปิด 2.94 ซื้อ/เป้า 3.7), SNC (ปิด 16.1 ซื้อ/เป้า 22)

ส่วนประเด็นสำคัญวันนี้

(-) สหรัฐรอดพ้นวิกฤติชัตดาวน์ แต่ยังกังวลปัญหาสงครามการค้ากดดันดาวโจนส์ร่วงอีก 425 จุด : แม้วันศุกร์ที่ผ่านมา วุฒิสภาสหรัฐจะลงมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยคะแนนเสียง 65 ต่อ 32 และประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ได้ลงนามในกฏหมายฉบับดังกล่าวแล้วส่งผลสหรัฐไม่ต้องปิดหน่วยงานราชการเป็นการชั่วคราว(ชัตดาวน์) อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังวิตกังวลต่อปัญหาสงครามการค้าหลังจีนและสหรัฐออกมาตรการตอบโต้ทางการค้าซึ่งกันและกันกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ร่วงแรงอีก 425 จุด (-1.77%) ปิดที่ 23,533 จุด นับเป็นราคาปิดต่ำสุดในปีนี้ (สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐวงเงิน 3 พันล้าน)

(+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – น้ำมันดิบบวกแรงตอบรับซาอุฯเสนอขยายเวลาลดกำลังการผลิตไปจนถึงปีหน้า : เมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.58 $ (+2.5%) ปิดที่ 65.88 $/bbl หลังจาก รมว.พลังงานซาอุดิฯเสนอให้ กลุ่มโอเปก และ รัสเซีย ขยายเวลาลดกำลังการผลิตขนาด 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันออกไปจนถึงปีหน้าจากที่โครงการเดิมจะสิ้นสุดในปลายปีนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากข่าว มอร์แกน สแตนลีย์ ออกมาคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 82.5$/bbl ในช่วงกลางปีนี้ จากผลบวกที่กลุ่ม โอเปกลดกำลังการผลิต ขณะที่อุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกปรับตัวขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ

(+/-) สัปดาห์นี้ ติดตามการประชุม ครม.อนุมัติโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน และ กลุ่มสื่อสารแบ่งจ่ายชำระค่าไลเซนต์ และการประชุม กนง.คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ตามเดิม : สัปดาห์นี้ วันอังคารที่ 27 มี.ค. ติดตามการประชุมครม. ลุ้นอนุมัติ 3 โครงการ

โดยเริ่มจาก กลุ่มรับเหมา-ลุ้นอนุมัติโครงการก่อสร้างทางรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน (Top pick CK SEAFCO), กลุ่มสื่อสาร – อนุมัติให้ผู้ประกอบการแบ่งจ่ายชำระค่าไลเซนต์คลื่น 900 MHz งวดสุดท้ายออกไปอีก 5 ปี (เป็นบวกกับ ADVANC และ TRUE) และสุดท้าย กลุ่ม TV Digital พักชำระค่าใบอนุญาตเป็นเวลา 3 ปี (เป็นบวกกับ BEC MONO MCOT WORK RS โดยเลือก WORK Top pick) ส่วนวันพุธที่ 28 มี.ค.ติดตามการประชุมกนง.คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ตามเดิมเป็นบวกกับกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ (Top Pick MTLSและ TISCO)

Back to top button