SYNEX บวก 3 วันติด พุ่งต่อ 10% รับผู้บริหารปักธงเป้ารายได้ปีนี้ 3.75 หมื่นล้าน!
SYNEX บวก 3 วันติด พุ่งต่อ 10% รับผู้บริหารปักธงเป้ารายได้ปีนี้ 3.75 หมื่นลบ. พร้อมส่ง "บัฟ" ปล่อยสินเชื่อสินค้าไอทีครึ่งปีหลัง ล่าสุด ณ เวลา 15.14 น. อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 9.65% สูงสุดที่ 12.50 บาท ต่ำสุดที่ 11.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.68 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ณ เวลา 15.14 น. อยู่ที่ระดับ 12.50 บาท บวก 1.10 บาท หรือ 9.65% สูงสุดที่ 12.50 บาท ต่ำสุดที่ 11.60 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 63.68 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น SYNEX ปรับตัวขึ้น 3 วันต่อเนื่อง นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 11.20 บาท ภายหลังจากที่ผู้บริหารออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มรายได้ในปีนี้ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นราว 15% เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2561โดยก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักจากระดับ 14.50 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2561
ด้าน น.ส.สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซินเน็ค (ประเทศไทย) (SYNEX) กล่าวว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 37,500 ล้านบาท หรือเติบโตราว 15% โดยเป็นไปตามธุรกิจทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มมือถือและโน๊ตบุ๊ค (Device), Consumer และ Commercial ที่มีการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็เห็นมีการเติบโตได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทได้เจรจาแบรนด์สินค้าใหม่ๆ เข้ามาจำหน่ายในปีนี้ไม่น้อยกว่า 5 แบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง แบรนด์เกี่ยวกับการเล่นเกมส์ (Gaming) ต่างๆ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจา 2-3 ราย คาดว่าจะได้ความชัดเจนในช่วงกลางปี จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้ความชัดเจนแล้ว 4 ราย
ขณะที่บริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 2% สูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 1.91% เป็นผลจากการเติบโตของยอดขายส่งผลให้บริษัทสามารถเจรจาต่อรองต้นทุนราคาสินค้าได้ดีขึ้น และมาจากการที่บริษัทเน้นการจำหน่ายสินค้าที่มีอัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูงมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเกมส์ หรือกีฬา e-sport ที่รับความนิยมสูงขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับ บริษัทฯเน้นการบริหารจัดการต้นทุนขายให้เหมาะสมากขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัท บัฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจให้เช่าซื้อรถจักรยานยนต์ โดยคาดว่าจะมีการขยายธุรกิจมาปล่อยสินเชื่อเพื่อการซื้อสินค้าไอทีของบริษัทได้ในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไป โดยคาดว่าผลประกอบการของบัฟจะเติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้ราว 500 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 70-80 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ บริษัทตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ บัฟ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไม่เกินปี 63