ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ เหตุนักลงทุนวิตกเฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ย

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ รายงานตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% แตะที่ 152.77 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,380.64 จุด ลดลง 56.84 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,932.85 จุด เพิ่มขึ้น 21.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,214.66 จุด ลดลง 35.20 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,666.89 จุด ลดลง 2.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,133.49 จุด ลดลง 10.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,434.80 จุด ลดลง 25.18 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,758.35 จุด ลดลง 5.72 จุด และดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,725.24 จุด ลดลง 3.26 จุด

ทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ซึ่งมีข้อมูลบางรายการที่ออกมาแข็งแกร่งและส่งผลให้นักลงทุนมองว่าเฟดอาจจะใช้เป็นเหตุผลในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 6.8% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 517,000 ยูนิต ซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

ขณะที่ผลสำรวจของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ระบุว่าดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 5.04% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 4.99% ของเดือนก.พ. และสูงกว่าระดับ 4.60% ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ด้านผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 95.4 ในเดือนพ.ค. หลังจากเคลื่อนไหวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนเม.ย.