KBANK ดีดบวก 1% คลายกังวลรายได้หดหลังงดค่าฟี ผบห.ชี้กระทบ 5% ลุยปรับแผนลดต้นทุนชดเชย
KBANK ดีดบวก 0.94% คลายกังวลประเด็นงดค่าฟี หลัง ผบห. แจงกระทบรายได้ 5% พร้อมปรับแผนลดต้นทุนทดแทนรายได้ค่าธรรมเนียมด่วน ล่าสุด ณ เวลา 10.34 น. มาอยู่ที่ 215 บาท บวก 2 บาท หรือ 0.94% สูงสุดที่ระดับ 216 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 213 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 614.55 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ณ เวลา 10.34 น. มาอยู่ที่ 215 บาท บวก 2 บาท หรือ 0.94% สูงสุดที่ระดับ 216 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 213 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 614.55 ล้านบาท
โดยวานนี้ราคาหุ้น KBANK ปรับตัวลดลงอย่างหนักภายหลังจากประกาศงดเว้นค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามเขต หรือโอนต่างธนาคารแบบทันที จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการ บริการเติมเงิน ผ่าน Netbank จนถึงสิ้นปีนี้ ซึ่งเกิดจากความกังวลว่ารายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยของบริษัทปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ภายหลังจากผู้บริหารของบริษัทออกมาชี้แจงกรณีดังกล่าวว่ากระทบรายได้เพียง 5% ขณะที่จะทำการลดลต้นทุน และค่าใช้จ่ายชดเชยรายได้ที่หายไป
ทั้งนี้ นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า การประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับลูกค้ารายย่อย และ ลูกค้าผู้ประกอบการที่ใช้บริการช่องทางดิจิทัล 4 ช่องทาง ได้แก่ K PLUS, K PLUS SME, K-Cyber, K-Cyber SME
โดยฟรีค่าธรรมเนียมบริการยอดนิยมที่ลูกค้าใช้บริการมากที่สุด ได้แก่ โอนข้ามเขต/ข้ามธนาคาร จ่ายบิลค่าสินค้าและบริการเติมเงิน ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 61 เป็นต้นไป ส่งผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารปีนี้ประมาณ 5% ของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ทั้งนี้ ในปี 60 ธนาคารมีรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.26 หมื่นล้านบาท
สำหรับผลกระทบดังกล่าวเริ่มเห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่วันที่ธนาคารประกาศใช้แคมเปญนี้ทันที แต่จะเห็นผลมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป โดยส่งผลให้การทำธุรกิจของธนาคารต่อจากนี้ไปจะไม่เห็นการเติบโตทางด้านผลประกอบการที่สูง แต่ยังถือว่าเติบโตในอัตราที่ชะลอตัว โดยยังมีรายได้อย่างอื่นมาชดเชย แม้จะไม่สามารถทดแทนรายได้ค่าธรรมเนียมได้ทั้งหมดก็ตาม โดยปัจจุบันธนาคารมีสัดส่วนรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย 40% และรายได้ดอกเบี้ย 60%
“ต่อไปจะไม่เห็นผลประกอบการที่โตในระดับสูงเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังโตอยู่ แต่โตในระดับที่ลดลง ซึ่งเราก็ต้องลดต้นทุน และลดค่าใช้จ่าย ถึงแม้ว่าจะไม่ครอบคลุมต่อรายได้เราที่หายไป ถือว่าการทำแบบนี้เป็นการคืนกำไรให้ลูกค้า รายได้ก็กลับไปอยู่ในกระเป๋าลูกค้า”นายปรีดี กล่าว
ด้านนายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ของ KBANK กล่าวว่า เมื่อวานนี้หลังจากธนาคารยกเลิกค่าธรรมเนียมดังกล่าว พบว่ามีลูกค้าที่เข้ามาใช้แอพพลิเคชั่น K PLUS เพิ่มขึ้นเป็น 25,000 ครั้ง/วินาที จากปกติ 12,000 ครั้ง/วินาที แสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีการรับรู้ และ ให้ความสนใจที่จะใช้บริการมากขึ้น แม้ธนาคารจะได้รับผลกระทบต่อรายได้ค่าธรรมเนียมที่หายไป แต่ถือว่าการยกเลิกค่าธรรมเนียมเป็นการคืนเงินกลับไปให้ลูกค้า และทำให้ธนาคารสามารถแข่งขันกับธนาคารอื่นได้
สำหรับการชดเชยผลกระทบจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่หายไปนั้น ธนาคารก็จะหันมาลดต้นทุนค่าใช้จ่ายทางการตลาดลง แต่ก็เชื่อว่าจะไม่สามารถลดผลกระทบได้ทั้งหมด ซึ่งผลกระทบดังกล่าวจะส่งผลต่อรายได้ของธนาคารอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป
“เมื่อวานนี้มีวอลุ่มเข้ามาเยอะที่สุด หลังจากฟรีค่าธรรมเนียม เราก็ถือว่าเป็นการสร้างความรู้สึกดีต่อลูกค้าของเรา แม้ว่าจะยอมเฉือนเนื้อตัวเองไป แต่ก็จะไปลดส่วนอื่น และ หารายได้อื่นๆ มาชดเชย แต่ก็ยอมรับว่าไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด”นายพัชร กล่าว