สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 61
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี นำโดยหุ้นเฟซบุ๊ก และหุ้นไมโครซอฟท์ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์ก นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนบางกลุ่มเข้าซื้อหุ้นเพื่อตกแต่งบัญชี (window dressing) ในการซื้อขายวันสุดท้ายของไตรมาส 1/2561
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,103.11 จุด พุ่งขึ้น 254.69 จุด หรือ +1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,640.87 จุด เพิ่มขึ้น 35.87 จุด หรือ +1.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,063.44 จุด เพิ่มขึ้น 114.22 จุด หรือ +1.64%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของเยอรมนี ซึ่งรวมถึงอัตราว่างงานเดือนมี.ค.ของเยอรมนีที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 370.87 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,096.73 จุด เพิ่มขึ้น 156.02 จุด หรือ +1.31% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,167.30 จุด เพิ่มขึ้น 36.86 จุด หรือ +0.72% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.87 จุด หรือ +0.17%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ และข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงบริษัทจีเคเอ็น และเมลโรส อินดัสทรีส์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.61 จุด เพิ่มขึ้น 11.87 จุด หรือ +0.17%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.20% ปิดที่ 1,327.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.5 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 16.268 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 932.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 19.40 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 943.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบเพื่อเก็งกำไร สืบเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมทั้งรายงานที่ว่า สมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกได้แสดงความพร้อมที่จะปรับลดกำลังการผลิต เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 64.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 70.27 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 45 ปี
ยูโรอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.2304 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2315 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4031 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4087 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7661 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 106.50 เยน จากระดับ 106.86 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9562 ฟรังก์ จากระดับ 0.9566 ฟรังก์
ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 12,000 ราย สู่ระดับ 215,000 ราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2516 หรือต่ำสุดในรอบกว่า 45 ปี