ดับฝัน TFD เสี่ยงถูกถอนใบอนุญาต”มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส” จับตาศาลฯนัดไต่สวนคดีวันนี้
ดับฝัน TFD! โครงการ “มหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส” เสี่ยงถูกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง จับตาศาลฯนัดไต่สวนคดีวันนี้ ร้อนถึงผอ.เขตปทุมวันถูกฟ้องออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำนักงานศาลปกครอง แจ้งว่าในวันนี้ (2 เม.ย. 61) เวลา 10.30 น. ศาลปกครองกลางนัดไต่สวน ในคดีหมายเลขดำที่ ส.๘๙/๒๕๕๙ ระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ที่ 1 กับพวกรวม 49 คน (ผู้ฟ้องคดี) กับ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่เจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ (ขอให้เพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างและผู้ถูกฟ้องคดีปฏิบัติหน้าที่)
ทั้งนี้ สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ผู้ฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 49 คน ฟ้องว่า ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กับพวกรวม 3 คน กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ โดยอนุมัติ อนุญาตให้มีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ ชื่อโครงการมหาดเล็กหลวง 2 เรสซิเดนเซส ของสำนักงานพระคลังข้างที่ โดยบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD ซึ่งเป็นโครงการที่กระทำผิดต่อกฎหมาย และไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการที่กำหนดในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชน
อนึ่งก่อนหน้านี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนมติคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ที่ให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการก่อสร้างอาคารชุดมหาดเล็ก เรสซิเดนเซส ที่ตั้งอยู่ใน ซ.มหาดเล็ก 2 ถ.ราชดำริ แขวงลุมพีนี เขตปทุมวัน กรุงเทพ ที่สำนักงานพระคลังข้างที่ ดำเนินงานโดยบริษัท ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TFD ไปเมื่อวันที่ (14 ก.ย.60) โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 57 ซึ่งเป็นวันที่มีมติดังกล่าว
โดยคดีดังกล่าวเกิดจากชาวบ้าน 23 ราย ซึ่งเป็นผู้ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารชุดคิวหลังสวนและแกรนด์หลังสวน ซ.หลังสวน ใกล้เคียงกับการก่อสร้างโครงการดังกล่าวได้ยื่นฟ้อง สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมพวกเป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-4 และมีบริษัทไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน ) และสำนักงานพระคลังข้างที่ สำนักพระราชวัง เป็นผู้ร้องสอดที่ 1-2 ต่อศาลปค.โดยเห็นว่า โครงการก่อสร้างอาคารดังกล่าวเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษสูง 43 ชั้น มีจำนวนห้องพัก 516 ห้อง ได้รับการอนุญาตก่อสร้างไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ส่วนเหตุผลที่ศาลมีคำพิพากษาดังกล่าวระบุว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่า ซ.มหาดเล็กหลวง 1 ถึงซ.มหาดเล็กหลวง 3 ที่ใช้เพื่อการจราจรของโครงการต่างๆ ของโฉนดที่ดินเลขที่ 2220 เลขที่ดิน 3 ของสำนักงานพระคลังข้างที่ฯ และใช้เป็นทางเข้าออกสู่ ถ.ราชดำริ และ ถ.หลังสวน เป็นถนนส่วนบุคคล ไม่ใช่ถนนสาธารณะ แม้คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ จะอ้างว่า ซ.มหาดเล็กหลวง 2 มีความกว้างตั้งแต่ 12 ถึง 13.57 เมตร และซ.มหาดเล็กหลวง 3 มีความกว้างตั้งแต่ 12 ถึง 14.42 เมตร แต่เมื่อทั้่งสองซอยไม่ใช่ถนนสาธารณะที่มีความกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร ที่จะรองรับอาคารใหญ่พิเศษพื้นที่อาคารรวมมากกว่า 3 หมื่นตารางเมตรได้
ดังนั้นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 วรรคสองของกฎกระทรวงฉบับที่ 33 (พ.ศ. 2535) ออกตามความพ.ร.บ.ควบคุมอาคาร 2522 กำหนด กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นราชการส่วนท้องถิ่น มีอำนาจในการควบคุมต้องพิจารณาเหตุผลความจำเป็น เนื่องจากปัจจุบันมีการก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่พิเศษเพื่อใช้ประโยชน์ในการอยู่อาศัยจำนวนมาก
นอกจากนี้กฎกระทรวงให้ใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร 2556 กำหนดให้ที่ดินตามโฉนดของสำนักงานพระคลังข้างที่ อยู่ในเขตพื้นที่สีแดงหมายเลข พ.5 -1 ประเภทพานิชยกรรม ที่จะใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งของศูนย์พานิชยกรามหลัก ศูนย์กลางทางธุรกิจการค้า บริการ ท่องเที่ยวในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งถือเป็นย่านชุมชนที่ต้องคำนึงถึงเรื่องความสะดวกแก่การจราจร ความปลอดภัย
รวมทั้งสิ่งแวดล้อมของอาคารยิ่งกว่าในย่านชุมชนเบาบาง ย่อมต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเคร่งครัด เมื่อที่ดินที่จะใช้ก่อสร้างอาคารโครงการ มิได้มีด้านหนึ่งใดของที่ดินนั้นยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถ.สาธารณะที่มีเขตกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ยาวต่อเนื่องกันโดยตลอดจนไปเชื่อมกับถนนสาธารณะอื่นที่มีเขตทางกว้างไม่น้อยกว่า 18 เมตร โดยสภาพของที่ดินจึงไม่อาจใช้ก่อสร้างอาคารที่มีขนาดพื้นที่ 3 หมื่นตรม.ได้ ดังน้้น คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯต้องมีมติไม่เห็นชอบต่อรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมดังกล่าว
ทั้งนี้โครงการมหาดเล็ก เรสซิเดนเซส เป็นอาคารพักอาศัยสูง 43 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น มีห้องชุดรวม 516 ยูนิต ดำเนินงานโดย TFD ที่มีตระกูลเตชะอุบล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จะก่อสร้างบนพื้นที่เช่าระยะยาว 30 ปีจากสำนักงานพระคลังข้างที่ ขนาดเนื้อที่ 1-3-28 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเปล่าผืนสุดท้ายในซอยมหาดเล็กหลวง 2
โดยเป็นที่น่าจับตาว่า ภายหลังจากมีการไต่สวนคดีดังกล่าว ผลจะออกมาเป็นอย่างไร เนื่องจากหากบริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตจะส่งผลให้โครงการดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการได้อีกต่อไป และอาจจะส่งผลให้ราคาหุ้น TFD ปรับตัวลดลงอย่างหนัก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า ภายหลังจากโครงการดังกล่าวถูกถอน EIA ไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2560 นั้น ส่งผลให้ราคาหุ้นในวันถัดมาปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ลงมาอยู่ที่ 1.97 บาท ปรับตัวลดลง 3.43% และปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มี.ค.2561 ราคาอยู่ที่ระดับ 1.72 บาท