SET รูดหนัก17จุด หวั่นเลือกตั้งเจอ”โรคเลื่อน” หลังสนช.เซ็นร่างพ.ร.บ.ส.ส.ยื่นศาลรธน.วันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,765.24 จุด ลบ 17.04 จุด หรือ 0.96% มูลค่าการซื้อขาย 6.21 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ด้านนายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่าภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง โดยส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วงครึ่งบ่าย เนื่องจากปัจจัยที่ประธานสนช. ได้ลงนามในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

โดยนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า ได้รับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.)

โดยล่าสุดในวันนี้ (3 เม.ย.) ได้ลงนามและส่งร่างดังกล่าว พร้อมแนบคำร้องของสมาชิกสนช. 27 คน ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่นายกรัฐมนตรีส่งมา ระบุว่า เห็นควรให้สมาชิก สนช. ดำเนินการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความร่างกฎหมายนี้ เพราะเป็นเรื่องของสมาชิกที่มีการเข้าชื่อกันตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ดังนั้น ตนจะดำเนินการไปตามกฎหมาย โดยขอความอนุเคราะห์ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แต่ไม่อยากใช้คำว่าให้เร่งรัด

ส่วนร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา นายพรเพชร กล่าวว่า ขณะนี้ทางศาลรัฐธรรมนูญได้ประสานให้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กับ สนช. ไปชี้แจง

จากปัจจัยดังกล่าวจึงทำให้นักลงทุนเกิดการวิตกกังวลว่าอาจเป็นการส่งสัญญาณชะลอการเลือกตั้งให้เกิดการล่าช้าออกไป อีกทั้งปัจจัยการลงทุนในภูมิภาคเอเชียรวมถึงยุโรปที่มีปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนเป็นตัวกดดันดัชนีในวันนี้

สำหรับภาวะตลาดในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) คาดว่ามีโอกาสสูงที่ดัชนีฯจะรีบาวน์ โดยหากไม่นับรวมประเด็นการเมืองในประเทศ มองว่าหุ้นไทยรับปัจจัยจากประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนค่อนข้างต่ำ

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ตลาดหุ้นไทยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและไฟฟ้า จากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง แต่ยังคงแกร่งกว่าตลาดโดยรวม จึงคาดว่าตลาดฯในวันพรุ่งนี้น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมาได้

พร้อมทั้งให้จับตาแนวรับที่ระดับ 1,760 จุด หากพรุ่งนี้ดัชนีฯมีการปรับตัวลดลงต่ำกว่าบริเวณนี้ ก็คาดว่าดัชนีฯจะสามารถลงไปถึงระดับ 1,720 จุดได้ อีกทั้งแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังความผันผวนของดัชนีฯในช่วงนี้

พร้อมให้แนวรับที่ 1,760 จุด แนวต้าน 1,772 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

PTT  มูลค่าการซื้อขาย 4,457.14 ล้านบาท ปิดที่ 546 บาท ลดลง 6 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 4,160.89 ล้านบาท ปิดที่ 69.50 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท

EA  มูลค่าการซื้อขาย 4,046.09 ล้านบาท ปิดที่ 34 บาท ลดลง 5 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,676.69 ล้านบาท ปิดที่ 88 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,579.60 ล้านบาท ปิดที่ 7.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท

 

ตลาดหุ้นเอเชีย