สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 เม.ย. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นในกลุ่ม FAANG (เฟซบุ๊ก แอปเปิล อเมซอน เน็ตฟลิกซ์ และกูเกิล) ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,033.36 จุด พุ่งขึ้น 389.17 จุด หรือ +1.65% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,614.45 จุด เพิ่มขึ้น 32.57 จุด หรือ +1.26% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,941.28 จุด เพิ่มขึ้น 71.16 จุด หรือ +1.04%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวเจ้าหน้าที่การรถไฟของฝรั่งเศสผละงานประท้วง เนื่องจากไม่พอใจโยบายปฏิรูปแรงงานของประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครอง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 367.07 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,152.12 จุด ลดลง 15.18 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,030.46 จุด ลดลง 26.15 จุด หรือ -0.37% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,002.45 จุด ลดลง 94.28 จุด หรือ -0.78%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากที่จีนได้ออกมาตอบโต้สหรัฐด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆจากสหรัฐ จำนวนมากกว่า 100 รายการ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของอังกฤษมีการขยายตัวเพียงเล็กน้อยในเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,030.46 จุด ลดลง 26.15 จุด หรือ -0.37%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 3% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 63.51 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 68.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,337.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 1.68% ปิดที่ 16.392 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 931.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 927.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันศุกร์นี้

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 106.58 เยน จากระดับ 105.84 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9592 ฟรังก์ จากระดับ 0.9546 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.2268 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2301 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น ที่ระดับ 1.4056 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4041 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7680 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7653 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button