PRM ทุ่ม 2.9 พันลบ. ฮุบกิจการ “Big Sea” ขึ้นครองเบอร์หนึ่งธุรกิจขนส่งในประเทศ
PRM ทุ่ม 2.9 พันลบ. ซื้อหุ้น “Big Sea” ผู้ดำเนินกิจการขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปทางทะเลรายใหญ่ของไทย ดันส่วนแบ่งตลาดเพิ่มเป็น 49% ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งธุรกิจขนส่งในประเทศ
นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ PRM เปิดเผยว่า บริษัทลงนามสัญญาเข้าซื้อหุ้น บริษัท บิ๊ก ซี จำกัด (Big Sea) ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งน้ำมันสำเร็จรูปทางทะเลรายใหญ่จำนวน 360,000 หุ้น รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้นไม่เกิน 2,900 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนการซื้อขายล็อตแรก 70% และจะทยอยซื้อเพิ่มอีก 30% ภายใน 3 ปี
สำหรับการเข้าซื้อหุ้นของ Big Sea ในครั้งนี้ เพื่อเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ PRM ในกลุ่มธุรกิจขนส่งฯ ภายในประเทศ ให้มีความแข็งแกร่งในด้านจำนวนเรือที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว ซึ่งส่งผลให้ PRM มีส่วนแบ่งการตลาดการขนส่งในประเทศเป็นอันดับ 1 โดยคิดเป็นสัดส่วน 49% ของส่วนแบ่งการขนส่งตลาดในประเทศทั้งหมด
โดยมีความสามารถในการให้บริการขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้ ปริมาณการขนส่งของ เชฟรอน จากเดิม 15% จะเพิ่มเป็น 43%, เชลล์จากเดิม 19% จะเพิ่มเป็น 64%, IRPC จากเดิม 19% จะเพิ่มเป็น 52% และยังขยายฐานลูกค้าใหม่ คือ บางจาก คิดเป็นสัดส่วน 37% ของปริมาณน้ำมันที่ขนทางเรืออีกด้วย
สำหรับรายละเอียดการเข้าซื้อหุ้น Big Sea แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงแรก PRM จะเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 252,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 70% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดใน Big Sea จากบริษัท ทีดับบลิวที จำกัด โดยมีมูลค่ารวมไม่เกิน 1,400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำธุรกรรมแล้วเสร็จและรับรู้รายได้ทันทีภายในไตรมาส 2/61
จากนั้นช่วงที่ 2 PRM จะทยอยเข้าซื้อหุ้น Big Sea ในส่วนที่เหลืออีก 108,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 30% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดจาก ทีดับบลิวเอทีที ลิมิเต็ด (TWATT Limited) โดยทยอยเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 10% ต่อปี รวม 3 ปี ซึ่งสัดส่วนการเข้าทยอยซื้อหุ้นในช่วง 3 ปีนี้จะพิจารณาจากผลการดำเนินงานของ Big Sea เป็นสำคัญ โดยคาดว่าการซื้อขายหุ้นในช่วงที่ 2 จะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/64 ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมไม่เกิน 1,500 ล้านบาท
อนึ่ง Big Sea เป็นเจ้าของกองเรือขนส่งขนาดเล็ก 13 ลำ อายุเรือเฉลี่ย 17.3 ปี ขนาดความจุเฉลี่ยต่อลำอยู่ที่ 2.7 ล้านลิตร รวมความจุทั้งหมดประมาณ 35.2 ล้านลิตร รับสินค้าจากโรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมันในประเทศส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ให้แก่ลูกค้ากลุ่มบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ
โดยมีสัญญาให้บริการกับกลุ่มลูกค้าระยะสั้นไม่เกิน 1 ปี จำนวน 3 ลำ และสัญญาระยะยาวมากกว่า 1 ปี อีก 10 ลำ รวมถึงอยู่ระหว่างการต่อเรือเพิ่มอีก 1 ลำ ขนาดความจุ 5.3 ล้านลิตร คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 62 เพื่อให้บริการแก่เชฟรอนหลังได้รับสัญญาเช่าระยะยาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ Big Sea มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจาก 457 ล้านบาทในปี 58 เพิ่มเป็น 596 ล้านบาทในปี 60 ขณะที่มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจาก 97 ล้านบาท เพิ่มเป็น 110 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ย 19%