จับตา SCB มีเฮ! ลุ้นดีล “คิงเพาเวอร์-PACE” ดัน คลายกังวลหนี้เสียกดดันงบ

สืบเนื่องจากกรณีที่มีกระแสข่าวในภาคเช้าวันนี้ (10 เม.ย.2561) ว่า กลุ่ม King Power ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย อยู่ระหว่างพิจารณาเข้าซื้อสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของ PACE โดยมีการคาดการณ์ว่า สินทรัพย์ดังกล่าวอาจเป็นโครงการมหานครของบริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด (PP1) และ บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด (PP3) หรือจุดชมวิวในโครงการมหานคร ซึ่งก่อนหน้านี้ PACE เคยเข้าร่วมลงทุนกับ Apollo Asia Sprint Holding Company Limited, Goldman Sachs Investments Holdings (Asia) Limited และ Mercer Investments (Singapore) Pte., Ltd.

ทั้งนี้ในเวลาต่อมาได้มีการยุติการร่วมทุนดังกล่าว หลังมีความคิดเห็นไม่ตรงกันในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่อาจสูงเกินกว่าจำนวนที่ได้ตกลงกับกลุ่มผู้ร่วมลงทุนไว้แต่เดิม จึงได้ทำการเปิดหาผู้เข้าร่วมลงทุนใหม่ ตามที่ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้มีการรายงานไปในภาคเช้าวันนี้ ลือกระฉ่อน!”คิง เพาเวอร์”ทุ่มหมื่นล้านซื้อ”มหานครฯ-จุดชมวิว” รับไม้ต่อ”อพอลโล-โกลด์แมนฯ”

 

โดย นอกจากประเด็นการขายสินทรัพย์ฺดังกล่าวจะส่งผลดีต่อ PACE แล้ว จากการตรวจสอบ “ผู้สื่อข่าว” พบว่า การจำหน่ายสินทรัพย์ของ PACE ให้กับกลุ่ม King Power จะส่งผลให้ตลาด และนักลงทุนคลายกังวลในเรื่องของผลประกอบการของ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่ของ PACE ตามไปด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากหากมีการซื้อขายสินทรัพย์ บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด (PP1) และ บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด (PP3) จะเท่ากับว่าจะเป็นการปลดภาระหนี้ของ PACE ที่มีต่อ Apollo Asia Sprint Holding Company Limited, Goldman Sachs Investments Holdings (Asia) Limited และ Mercer Investments (Singapore) Pte., Ltd. นอกจากนี้จำนวนเงินที่เหลือจากการจำหน่ายสินทรัพย์จะส่งผลให้ PACE มีความสามารถชำระหนี้ที่มีต่อ SCB ได้

โดยที่ผ่านมา SCB ยังได้รับแรงกดดันจากการปล่อยเงินกู้ให้กับ PACE ในแง่ของการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เนื่องจาก PACE กำลังเผชิญกับภาวะหนี้ที่มีอยู่ค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้ที่ผ่านมาผลประกอบการของ SCB ถูกกดดันมาโดยตลอด จึงเป็นที่น่าจับตาว่า หากมีการประกาศเข้าซื้อสินทรัพย์อย่างเป็นทางการจะส่งผลให้ผลประกอบการ และราคาหุ้น SCB กลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีได้อีกครั้งหรือไม่