“อัพเดต”สถานการณ์สหรัฐ-อังกฤษ-ฝรั่งเศสจับมือถล่มซีเรีย!!!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา(14 เม.ย.) สหรัฐได้เปิดฉากดำเนินการทางทหารกับซีเรีย โดยมีกองทัพอังกฤษและกองทัพฝรั่งเศสเข้าร่วมโจมตีซีเรียในครั้งนี้ด้วย โดยเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่วกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และมีแสงสีแดงพุ่งขึ้นจากพื้นดินไปยังท้องฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเป็นการตอบสนองของระบบป้องกันทางอากาศต่อการโจมตีของสหรัฐ

ขณะที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กองทัพอังกฤษเข้าร่วม”ประสานงานและโจมตีเป้าหมาย” เพื่อตอบโต้ที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชน และยับยั้งไม่ให้ซีเรียนำอาวุธเคมีออกมาใช้อีก

ด้านนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสประกาศในแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า กองทัพฝรั่งเศสได้ร่วมมือกับสหรัฐและอังกฤษในการโจมตีเป้าหมายคลังเก็บอาวุธเคมีในซีเรีย การตอบโต้ของเราถูกจำกัดไว้ที่ความสามารถในการผลิตและใช้อาวุธเคมีของซีเรีย”

ทั้งนี้ภายหลังการโจมตีซีเรีย นายแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้แสดงความวิตกกังวลต่อการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรในซีเรีย โดยระบุว่า การรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศเป็นหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) พร้อมวอนนานาชาติใช้ความอดกลั้นร่วมแก้สถานการณ์วิกฤติ

ขณะที่นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ได้แถลงการณ์ว่า การโจมตีในซีเรียซึ่งนำโดยสหรัฐ, ฝรั่งเศส และอังกฤษ เป็น “การกระทำที่โหดเหี้ยม” ต่อรัฐอธิปไตย และรัสเซียขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างหนักแน่น

ส่วนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ต่อสายตรงถึงนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เพื่อหารือเกี่ยวกับปฏิบัติการโจมตีซีเรียเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ทรัมป์และมาครองยืนยันว่าการโจมตีทางอากาศประสบความสำเร็จและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ เพื่อขัดขวางซีเรียไม่ให้ใช้อาวุธเคมีอีก

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ได้ต่อสายถึงนายกฯอังกฤษ เพื่อกล่าวขอบคุณที่สนับสนุนปฏิบัติการครั้งนี้ พร้อมกับย้ำว่าการโจมตีทางอากาศประสบความสำเร็จและเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ

ล่าสุดวันนี้(16 เม.ย.) นางนิกกี้ ฮาร์ลีย์ ทูตสหรัฐประจำองค์การสหประชาชาติ เผยจะมีการใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่กับรัสเซียอันเนื่องมาจากการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย โดยสหรัฐและอังกฤษกำลังประเมินเรื่องผลกระทบและการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปภายหลังจากที่เกิดเหตุโจมตีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐจะประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ในวันนี้กับบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวพันกับอุปกรณ์ที่ทางผู้นำซีเรียและอาวุธเคมีของซีเรีย

ด้านนายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เผยตนเองพร้อมที่จะเจรจากับทุกฝ่าย รวมทั้งรัสเซียและอิหร่าน เพื่อปูทางสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองในซีเรีย

“ผมได้กล่าวไว้ตั้งแต่ต้นแล้วเรื่องการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน เราต้องการเจรจากับอิหร่าน รัสเซีย และตุรกี นโยบายของฝรั่งเศสคือการเจรจากับทุกฝ่าย เงื่อนไขคือการสร้างสันติภาพ”

ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นโตเกียวปิดวันนี้(16เม.ย.)ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการโจมตีแค่ในวงจำกัดซีเรียของสหรัฐ โดยดัชนีนิกเกอิบวก 56.79 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 21,835.53 จุดหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ ประมงและเกษตร และค้าปลีกปรับตัวขึ้น ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดวันนี้ที่ 2,457.49 จุด เพิ่มขึ้น 2.42 จุด หรือ 0.10%

ส่วนดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้า ณ เวลา 14.19 น.(ตามเวลาไทย) อยู่ที่ระดับ 24420.00 จุด บวก 84.00 จุด หรือ 0.35% ดัชนี S&P500 อยู่ที่ระดับ 2,664.50 จุด บวก 7.20 จุด หรือ 0.27% และดัชนี Nasdaq อยู่ที่ระดับ  6656.50 จุด บวก 15.75 จุด หรือ 15.75%