DNA เซ็น MOU เหมืองดิจิทัลโทเคนใหญ่สุดในจีน รับส่วนแบ่ง 5% หวังสร้างรายได้ยั่งยืน
DNA เซ็น MOU “จื่อหลิน” เหมืองดิจิทัลโทเคนใหญ่สุดในจีน ลุยพัฒนา-ดูแลระบบขุด Bitcoin รับเต็มส่วนแบ่ง 5% จากกำไรสุทธิ มั่นใจสร้างรายได้ยั่งยืน
นายพิพัฒน์ รุ่งเรือง กรรมการบริษัท ไวเทค อินเตอร์เนชั่นนอล จำกัด ซึ่งเป็น บริษัทลูกของ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ DNA และในฐานะกรรมการ DNA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Zi Yang City ZhiLing Technology Company ผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทเหมืองขุดดิจิทัลโทเคนบิทคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศจีน บนพื้นที่ขนาด 500 ไร่ และมีจำนวนเครื่องขุดดิจิทัลโทเคน ประมาณ 350,000 เครื่อง มูลค่าต่อเครื่องประมาณ 120,000 บาท คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 3.50 หมื่นล้านบาท
โดยการลงนามในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันศึกษาและพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตในเหมืองขุดบิทคอยน์ ที่จะมีการก่อสร้างใหม่บนพื้นที่ 2,000 ไร่ ด้วยจำนวนเครื่องขุดจำนวน 1 ล้านเครื่อง มูลค่าการลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาทในมณฑลอูลู่ปู้ฉี (Urumuqi) ประเทศจีน รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาอื่นๆในอนาคต
ทั้งนี้ DNA จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งบริษัทฯได้มีความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Blockchain (บล็อกเชน) และโรบอทเทรดอัตโนมัติมาช่วยพัฒนา และดูแลระบบสำหรับกระบวนการขุดเพื่อเพิ่มศักยภาพของเครื่องขุดบิทคอยน์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ บริษัทฯยังดูแลในเรื่องของการตลาดสำหรับการวิเคราะห์แนวโน้ม และทิศทางราคาบิทคอยน์ ซึ่งมีผลอย่างมากต่อกำไรสุทธิของ ZhiLing Technology Company
โดย DNA จะได้รับส่วนแบ่งจากการร่วมมือครั้งนี้ 5% ของกำไรสุทธิทั้งหมด สำหรับโครงการเหมืองในมณฑลอูลู่ปู้ฉี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะมีเครื่องขุดทั้งหมด 1 ล้านเครื่อง โดยจะเริ่มก่อสร้างและดำเนินการทีละเฟส โดยคาดว่าในเฟสแรกจะเริ่มดำเนินการขุดบิทคอยน์ได้ภายในไตรมาส 2/61 ซึ่งภายหลังดำเนินการจะสามารถรับรู้รายได้ในทันที และจะดำเนินการก่อสร้างเสร็จทั้งหมดภายในปี 2562
ทั้งนี้ ZhiLing Company ถือเป็นบริษัทชั้นนำที่มีชื่อเสียงและมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจด้านการทำเหมืองขุด บิทคอยน์ ขณะที่มีใบอนุญาตให้ประกอบกิจการเหมืองขุดบิทคอยน์จากรัฐบาล อีกทั้ง ต้นทุนจากค่าไฟฟ้าซึ่งถือเป็นต้นทุนหลักของการทำเหมืองขุดบิทคอยน์ สำหรับประเทศจีน นั้น มีอัตราค่าไฟที่ถูกที่สุดในโลกเพียง 3 เซ็นต์ต่อหน่วย หรือคิดเป็น 1.80 บาทต่อหน่วยเท่านั้น ส่งผลให้เหมืองขุดของ ZhiLing Company มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
โดยที่ผ่านมา ZhiLing Company มีความสามารถในการขุดบิทคอยน์และสร้างกำไรได้ถึง 159 ล้านเหรียญสหรัฐฯต่อปี จึงมั่นใจว่า ข้อได้เปรียบทางด้านนวัตกรรมและต้นทุนจะส่งผลให้โครงการดังกล่าวมีรายได้สม่ำเสมอ ซึ่งการร่วมลงทุนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับทั้ง 2 ฝ่าย และทำให้แนวโน้มรายได้และกำไรของบริษัทฯเติบโตอย่างยั่งยืน รวมทั้งจะมีการต่อยอดเพื่อนำไปสู่การช่วยระดมทุน และพัฒนาต่อยอดเหมืองขุดในอนาคต ด้วย
“สำหรับการทำเหมืองบิทคอยน์ จะมีเครื่องขุดบิทคอยน์ที่ดำเนินการได้ไม่เต็มประสิทธิภาพอยู่ประมาณ 10% ขึ้นไป ทางผู้ประกอบการเหมืองขุดจะต้องเสียรายได้ในส่วนนี้ไป โดยทาง DNA จะเข้ามาดูแล และใช้นวัตกรรมที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามาบริหารจัดการให้เครื่องขุดสามารถดำเนินการได้สูงสุด และทาง ZhiLing Company มองเห็นว่าบริษัทฯมีความสามารถในเรื่องดังกล่าว จึงได้ให้ความสนใจและไว้ใจให้บริษัทฯเข้ามาดูแล
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการลงทุนและมุ่งมั่นที่จะแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง และขณะนี้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ถือว่ามีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากที่เราได้มีการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจ และจากการลงนามความร่วมมือกับพันธมิตรจากจีนในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะสร้างโอกาสให้กับบริษัทฯ ทั้งรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน” นายพิพัฒน์ กล่าว