สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 เม.ย.61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขาย iPhone ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อตลาด และบดบังปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างเจเนอรัล อิเลคทริค (GE)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,462.94 จุด ร่วงลง 201.95 จุด หรือ -0.82% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,670.14 จุด ลดลง 22.99 จุด หรือ -0.85% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,146.13 จุด ลดลง 91.93 จุด หรือ -1.27%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากอ่อนค่าของเงินปอนด์ หลังจากนายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอาจจะไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 39.25 จุด หรือ +0.54% ปิดที่ 7,368.17 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเล็กน้อย ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนเมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ได้ช่วยหนุนหุ้นบริษัทข้ามชาติ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.03% ปิดที่ 381.84 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,540.50 จุด ลดลง 26.92 จุด หรือ -0.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,368.17 จุด เพิ่มขึ้น 39.25 จุด หรือ +0.54% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,412.83 จุด เพิ่มขึ้น 21.19 จุด หรือ +0.39%

หุ้นเรกคิทท์ เบนคี

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงอย่างหนักในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาโจมตีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ว่าพยายามผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นในระยะนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 68.38 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 1.5%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 74.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นราว 2%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของสัญญาทองคำ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,338.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และตลอดสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 0.7%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 7.6 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 17.163 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.3 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 931.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.75 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1030.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (20 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 107.57 เยน จากระดับ 107.40 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9746 ฟรังก์ จากระดับ 0.9721 ฟรังก์

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2286 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2338 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.4031 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4078 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสตเรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7671 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7723 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button