SPALI มั่นใจปีนี้ยอดขายแตะ 2.3 หมื่นลบ. Q2 คงแผนเปิด 6 โครงการมูลค่า 8 พันลบ.
SPALI มั่นใจปีนี้ยอดขายเข้าเป้า 2.3 หมื่นลบ. ไตรมาส 2/58 คงตามแผนเปิด 6 โครงการ มูลค่ารวม 8 พันลบ.และตั้งเป้ายอดขายของทั้ง 2 โครงการใหม่ดังกล่าวอยู่ที่ 5 พันลบ.
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI เปิดเผยว่า บริษัทมีความมั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.3 หมื่นล้านบาท หลังปัจจุบันทำยอดขายได้แล้ว 5.5 พันล้านบาท
ขณะที่ยังมองตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตจากความชัดเจนการลงทุนของโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทได้ปรับลดจำนวนเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่ลง 1 แห่งเพื่อหันเน้นการทำโครงการคอนโดมิเนียมรองรับตลาดบนมูลค่าสูง รองรับกำลังซื้อของลูกค้าระดับบนที่มีมากกว่าระดับกลาง-ล่าง
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวทำให้การเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ลดลงเหลือ 27 โครงการ แต่มูลค่ายังคงเดิมที่ 3.11 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่วางแผนเปิดโครงการใหม่ 28 โครงการ โดยบริษัทจะปรับลดจำนวนโครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่เหลือ 8 โครงการ จากเดิม 9 โครงการ แต่ยังมีมูลค่าโครงการรวมเท่าเดิมที่ 1.5 หมื่นล้านบาท
เนื่องจากบริษัทหันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับบน เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และกำลังซื้อของลูกค้าระดับบนที่ยังมีอยู่มาก ส่วนโครงการแนวราบเปิดใหม่ยังคงไว้ที่จำนวน 19 โครงการ มูลค่า 1.61 หมื่นล้านบาท
อย่างไรก็ดี แม้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์จะปรับลดลง แต่ก็จะส่งผลดีให้กับโครงการแนวราบมากกว่าโครงการคอนโดมิเนียม เนื่องจากโครงการแนวราบลูกค้าตัดสินใจซื้อและสามารถกู้ได้ภายใต้อัตราดอกเบี้ยปัจจุบัน ต่างจากโครงการคอนโดมิเนียมที่เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อแล้ว การกู้จริงจะต้องรออีก 2-3 ปี
ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของลูกค้าบริษัทในปีนี้คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.9% จากปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 5.6-5.7% เนื่องจากธนาคารมีความเข้มงวดในการพิจารณามากขึ้น จากปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ไนระดับสูง ทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง
อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทยังมั่นใจว่าจะมีรายได้ที่ระดับ 2.2 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 15% จากปีก่อน โดยปัจจุบันมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3.9 หมื่นล้านบาท และจะทยอยรับรู้รายได้ไนปีนี้ 1.9 หมื่นล้านบาท ส่วนงบซื้อที่ดินในปีนี้ที่บริษัทตั้งไว้ 6 พันล้านบาท ซึ่งได้ใช้ไปแล้ว 2 พันล้านบาท ทำให้ปัจจุบันมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่ทั้งหมดมูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาทสามารถรองรับการพัฒนาได้ในอีก 4 ปีข้างหน้า
สำหรับการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/58 ยังคงเป็นไปตามแผน 6 โครงการ มูลค่ารวม 8 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายของทั้ง 2 โครงการใหม่ดังกล่าวอยู่ที่ 5 พันล้านบาท