Daily view (PM) – บล.กสิกรไทย

เคาะกลยุทธ์ลงทุนบ่าย

สรุปภาวะตลาดเช้า

– SET Index เปิดทดสอบ 1,500 จุด แต่ไม่ผ่าน ก่อนย่อลงมาปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,494.72 จุด -6.12 จุด(-0.41%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ลดลงมาที่ 13,423.65ลบ.

– Most Positive Impact: BDMS (+0.76 จุด)/ PTTGC (+0.36 จุด)/ CPF (+0.36 จุด)

– Most Negative Impact: PTTEP (-0.92 จุด)/ PTT (-0.85 จุด)/ SCC (-0.66 จุด)

จุดสังเกต: ดัชนี SET ถูกกดดันจากการปรับตัวลงของหุ้นใหญ่ในกลุ่ม Energy, Commerce และ Bank ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขายยังคงซบเซาโดยไม่มีหุ้นตัวใดซื้อขายเกินกว่า 1 พันลบ.

 

แนวโน้มตลาดบ่าย

– แกว่งผันผวนในกรอบ 1,490-1,500 จุด -ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายน่าจะยังคงแกว่งผันผวนแดนลบในกรอบ 1,480-1,500 จุด ด้วยแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีน และการชะลอการลงทุนเพื่อรอดูพัฒนาการของวิกฤตหนี้กรีซ ทั้งนี้ให้จับตาค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่อ่อนตัวลง อาจหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ให้ทรงตัว อาจช่วยชะลอการลงของหุ้นในกลุ่มพลังงาน ขณะที่กลุ่มธนาคารเราคาดว่าเริ่มเข้าสู่โซนที่มีความเสี่ยงทางลงจำกัด (ราว 3-5%) หลังราคาร่วงลงมาอยู่ในระดับที่ค่าเฉลี่ย P/BV แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3-5 ปี (แนวต้าน: 1,500-1,505 // แนวรับ: 1,487 และ 1577)

– หุ้นแนะนำภาคบ่าย: เก็งกำไร AOT (ได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวฟื้นชัดเจน), ทยอยสะสม JASIF (ราคาปัจจุบันให้คาดการณ์ปันผล 9% และมองหุ้นมีโอกาสถูกผลักดันจาก yield สูงกว่าทางเลือกการลงทุนอื่น, เป้าทางกลยุทธ์ 12.00-13.00 ตัดขาดทุน 9.20)

– หุ้นน่าสนใจเชิงกลยุทธ์: SAT PCSGH PLANB MEGA MC TTCL SUPER SWC (ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนจากราคาซื้อ 3-5%)

 

คำแนะนำ

– กลยุทธ์: “เก็งกำไรแบบมี stop loss” แม้ตลาดฟื้นขึ้นมาทดสอบ 1,500 จุด แต่เรายังไม่เห็นปัจจัยที่จะผลักดันตลาดไปได้ไกลๆ และเรายังคงระวังความผันผวนในช่วง 1 เดือนนี้ กลยุทธ์เก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่มีประเด็นบวก หรือทยอยสะสมหุ้นที่ปลอดภัย ปันผลสูง ที่มีผลการดำเนินงานฟื้นตัวชัดเจนในครึ่งปีหลัง โดยประเมินจังหวะซื้อที่ดีในช่วงกลาง มิ.ย.เป็นต้นไป

 

Trading Idea

– Opportunity Day: (28 พ.ค.) COL AH PYLON BJC // (2 มิ.ย.) MEGA CNT S PTG BA // (3 มิ.ย.) TUF EFORL APCO TRC DEMCO // (4 มิ.ย.) TASCO SEAFCO JSP SAWAD AIT MBKET // (5 มิ.ย.) EASON NCH SAT GPSC SGP // (8 มิ.ย.) STPI UREKA TOG SENA TRU

 

ประเด็นจับตา/ติดตาม

– (+) วิกฤตหนี้กรีซ – ตลาดมีโอกาสปรับขึ้น หากกรีซและกลุ่มยูโร ส่งสัญญาณบวกในการให้เงินช่วยเหลือกรีซเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

– (-) ภาวะเงินทุนต่างชาติ – หากต่างชาติกลับมาขายสุทธิต่อ จะสร้างความเปราะบางต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทย