TACC ผนึก NPP ควัก 25.50 ลบ. ร่วมลงทุนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศครบวงจร

TACC ผนึก NPP ควัก 25.50 ลบ. ร่วมลงทุนธุรกิจการค้าระหว่างประเทศครบวงจร หวังต่อยอดธุรกิจดันกำไรโต คาดสรุปผลแล้วเสร็จ Q3/61


บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TACC ระบุว่า บริษัทมีแผนที่จะเข้าร่วมทุนกับบริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งหนึ่ง ดำเนินธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (International Trading Business) และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (26 เม.ย.) อนุมัติหลักการให้บริษัทเข้าเจรจาร่วมทุนกับ NPP ในเรื่องดังกล่าว

ทั้งนี้ TACC ถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนดังกล่าวสัดส่วน 51% และ NPP ถือหุ้น 49% โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นอยู่กับผลการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะสามารถเจรจากับ TACC และคาดว่าจะดำเนินการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนให้แล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 3/61

โดย TACC จะนำเงินจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทจำนวนประมาณ 25.50 ล้านบาทมาใช้ในการลงทุนครั้งนี้ ซึ่งจะไม่กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด โดยบริษัทคาดว่าการร่วมลงทุนจะช่วยส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจหลักของบริษัท ได้ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทร่วมทุน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าของบริษัท และเพิ่มฐานลูกค้าให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังคาดว่าบริษัทร่วมทุนจะสามารถทำกำไรที่ดีให้กับบริษัทได้ในอนาคต

ขณะเดียวกัน NPP ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติหลักการให้บริษัทเข้าร่วมลงทุนกับ TACC เพื่อตั้งบริษัทในประเทศไทย โดยคาดว่าจะมีทุนจดทะเบียนเริ่มแรกจำนวน 50 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว (One Stop Service) ซึ่งรวมถึงการบรรจุผลิตภัณฑ์ และจัดจำหน่ายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อส่งออกต่างประเทศทั้งในรูปแบบ Online, Offline, B2B, B2C และสถานที่ขายสินค้าปลอดภาษี (Duty Free) ต่างๆ ในภูมิภาคใกล้เคียง

สำหรับแหล่งเงินลงทุนของ NPP จะมาจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/60 เมื่อวันที่ 6 ก.พ.60 ที่ได้อนุมัติไว้สำหรับลงทุนในธุรกิจใหม่ในวงเงิน 70 ล้านบาท โดยจะนำมาใช้ลงทุนจำนวนประมาณ 24.5 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบต่อสภาพคล่องของ NPP แต่อย่างใด

ทั้งนี้ NPP คาดว่าบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะสามารถส่งเสริมและต่อยอดธุรกิจหลักของ NPP โดยเฉพาะธุรกิจบรรจุภัณฑ์ได้ และเป็นการเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าของ NPP และเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ NPP คาดว่าบริษัทร่วมทุนจะสามารถทำกำไรที่ดีให้กับ NPP ในอนาคตได้

Back to top button