กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ โบรกฯ แนะจับตา 6 กลุ่มหุ้นเด็ดมีปัจจัยบวกหนุน

กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ โบรกฯ แนะจับตา 6 กลุ่มหุ้นเด็ดมีปัจจัยบวกหนุน


บล.ไอร่า ระบุว่า SET วันนี้มีโอกาสปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ แต่คาดอยู่ในกรอบจำกัด หลัง Bond Yield ของสหรัฐฯ ล่าสุด ปรับลดลงต่ำกว่า 3.0% แต่อย่างไรก็ตามยังอยู่ในระดับสูงและใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 5 ปี (3.03% เมื่อ ธ.ค.56) คาดยังมีความกังวลต่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินสูงขึ้น ซึ่งกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

รวมถึงตลาดหุ้น แนะติดตามการประชุมเฟด 1 – 2/5/61 ซึ่งคาดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ภายใต้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งคาด 2 ครั้งที่เหลือ จะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และกันยายน ตามลำดับ

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ ภาพรวมยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ โดยอยู่ในช่วงประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรต่อเนื่องถึงกลางเดือนพ.ค. ขณะที่กลุ่มพลังงาน คาดบวก/ลบ ตามราคาน้ำมัน

อย่างไรก็ตามยังมีความน่าสนใจเฉพาะตัว เช่น  PTTEP ที่คาดยังมีแรงเก็งกำไรจากการเปิดประมูลสัมปทานปิโตรเลียมแหล่งบงกช-เอราวัณ โดยคาดมีเปิดประมูลช่วงก.ย.61 และทราบผลประมูลในเดือนธ.ค.61 ขณะที่ PTT คาดราคาหุ้นสะท้อนประเด็นการแตก Par ซึ่งเริ่มซื้อขาย Par ใหม่ ที่ 1.0 บาท (จาก 10.0 บาท) ไปแล้ว

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม TV Digital เช่น WORK, BEC และ MONO ที่คาดมีแรงเก็งกำไรภายใต้ประเด็นคำสั่ง คสช. ที่จะช่วยกลุ่ม TV Digital โดยการพักชำระค่าใบอนุญาตทีวีดิจิทัล 3 ปี พร้อมลดค่าเช่าโครงข่าย (Mux) ลง 50% เป็นเวลา 2 ปี และสามารถโอนใบอนุญาตได้ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 1/61 ที่คาดขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนและเทียบจากปีก่อน

ส่วนทางด้าน Fund Flow ต่างชาติยังคงขายสุทธิต่อเนื่อง YTD ยอดขายสุทธิสูงเกือบ 75,000 ล้านบาท พร้อมแนะจับตาสถาบันในประเทศที่เริ่มมียอดขายสุทธิออกมาต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 อีกเกือบ 1,200 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะจากการยื่นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ อาจส่งผลต่อ Road Map เลือกตั้งในเดือนก.พ.62

อย่างไรก็ตามในระยะกลาง – ยาว ยังได้รับ Sentiment บวกจากความคืบหน้าโครงการ EEC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างรอประกาศใช้เป็นกฎหมาย คาดส่งผลดีต่อกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ภายใต้โครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน

รวมถึงล่าสุด รมว.คมนาคม คาดในเดือนพ.ค. – มิ.ย.นี้ เสนอครม. เพื่อขออนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 8.5 หมื่นล้านบาท ขณะที่คาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน – ราษฎร์บูรณะ และงานเดินรถ จะรวมเป็นรูปแบบ PPP และเตรียมจะเสนอ ครม.ได้ประมาณไตรมาส 3/61 และยังแนะจับตา

(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น

(2) กลุ่มพลังงาน ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น เช่น PTT, PTTEP, BANPU และ SPRC เป็นต้น

(3) กลุ่มสื่อ ได้รับประโยชน์จากรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นโดดเด่น เช่น MONO

(4) กลุ่มท่องเที่ยว ได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เช่น CENTEL, ERW และ SPA เป็นต้น

(5) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยว เช่น AOT และ PSL จากค่าระวางเรือ และ BTS จากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย

(6) กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากโครงการ EEC ที่มีความชัดเจนขึ้นตามลำดับ คาดได้รับประโยชน์จากความเชื่อมั่นของนักลงทุนเอกชน และโครงการก่อสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการลงทุน

Back to top button