GL ฟ้องแก้เกี้ยว“เจทรัสต์” ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย 880 ลบ. นัดชี้สองสถาน 20 ส.ค.

GL ฟ้องแก้เกี้ยวเรียกค่าเสียหาย “เจทรัสต์” ข้อหาละเมิด เรียกค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทน 880 ลบ. ศาลฯนัดพิจารณานัดครั้งแรก 20 ส.ค.นี้


บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL ระบุว่า บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้อง บริษัท เจทรัสต์ เอเชีย พีทีอี จำกัด เป็นจำเลยต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2561 เป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.2313/2561 มีจำนวนทุนทรัพย์ 880,000,000 บาท ในข้อหาละเมิด และเรียกค่าเสียหาย และค่าสินไหมทดแทน โดยมีวันนัดพิจารณาครั้งแรก (วันนัดชี้สองสถาน) ในวันที่ 20 สิงหาคม 2561

อนึ่งประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากกรณีที่บริษัท J Trust Co., Ltd และบริษัทย่อย J Trust Asia Pte. Ltd. ผู้ถือครองหุ้นกู้แปลงสภาพของ GL ได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อบริษัทฯเกี่ยวกับการฟ้องคดีแพ่งต่อ GL เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย และได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลาง ภายหลังจาก นายมิทซึจิ โคโนชิตะ อดีตผู้บริหารของ GL ถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย กล่าวโทษทางอาญากรณีทุจริต เบียดบังทรัพย์สินของบริษัท และทำบัญชีไม่ถูกต้อง โดยทำธุรกรรมอำพรางผ่านบริษัทที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อให้ผลประกอบการของ GL สูงเกินความจริง

ทั้งนี้ ทาง J Trust Co., Ltd. (J Trust) ต้องการยกเลิกการลงทุนของ J Trust Asia Pte. Ltd. (JTA) ในหุ้นกู้แปลงสภาพของ GL จำนวน 180 ล้านเหรียญสหรัฐ (5.76 พันล้านบาท) พร้อมกับดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทและบุคคลอื่นในประเทศไทย ประเทศสิงคโปร์ และเกาะบริติชเวอร์จิน

โดยวันที่ 11 มกราคม 2561 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ซึ่ง J Trust Asia Pte. Ltd. เป็นผู้ยื่นคำร้อง และศาลล้มละลายกลางได้นัดไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในวันที่ 19 มีนาคม 2561 ซึ่งทาง GL ได้ดำเนินการยื่นคำคัดค้านคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยในคำคัดค้านคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และขอให้ศาลมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการในทันที โดยมิต้องดำเนินการไต่สวนอีกต่อไป

ต่อมาในวันที่ 19 มีนาคม 2561 ศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนคำร้องขอฟื่นฟูกิจการของบริษัทฯ โดยศาลล้มละลายมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากจำนวนหนี้ที่ J Trust Asia Pte. Ltd. ได้ฟ้องบริษัทฯ ต่อศาลแพ่งนั้นเป็นจำนวนหนี้ที่ไม่แน่นอน เนื่องจากศาลแพ่งยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งแต่อย่างใด ทั้งศาลได้สอบบริษัทฯและเจ้าหนี้รายอื่นที่มาศาลยังได้ความว่าบริษัทฯ มิได้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ทำให้เชื่อว่าบริษัทฯ ไม่อยู่ในสถานการณ์จะต้องฟื้นฟูกิจการ

Back to top button