กกร.ชง กกบ.เลื่อนใช้”IFRS9″ไปปี 65 จับตาหุ้นแบงก์-ลิสซิ่งวิ่งแรง!หมดกังวลตั้งสำรองฯเต็มปี

กกร.ชงสภาวิชาชีพบัญชีเลื่อนใช้ "IFRS9" ไปปี 65 หวั่นกระทบศก.ประเทศ จับตาหุ้นกลุ่มแบงก์-ลิสซิ่ง วิ่งกระฉูดคลายความกดดันตั้งสำรองฯปีนี้อ่วม!


จากกรณีที่สภาวิชาชีพบัญชีจะมีการเสนอคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ประกาศบังคับใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่ หรือ IFRS9 ในวันที่ 1 มกราคม 2562 ล่าสุด ในวันนี้ (7 พ.ค.61) ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้มีหนังสือเสนอ กกบ. ขอเลื่อนการประกาศใช้มาตรฐานดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 1 มกราคม 2565

โดย นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า ทาง กกร.ได้มีข้อเสนอถึงกกบ. เพื่อขอเลื่อนการประกาศใช้มาตรฐานการบัญชี IFRS9 ออกไปเป็นวันที่ 1 มกราคม 2565 เนื่องจากมองว่าหากประกาศใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2562 ตามกำหนดเดิมจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือส่งไปอย่างเป็นทางการแล้ว และทางฝ่ายกกร.ได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคธุรกิจที่อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการศึกษาผลกระทบ เช่นธุรกิจลิสซิ่ง และเช่าซื้อ เป็นต้นเข้ามาหารือในประเด็นดังกล่าวร่วมกันทั้งหมด

ทั้งนี้ เพื่อให้ กกบ. และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาผลกระทบอย่างละเอียดรอบด้าน ซึ่งการเลื่อนออกไปจะทำให้มีเวลาศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศที่ได้เริ่มใช้ไปแล้ว เพื่อที่จะได้กำหนดแนวทางในการนำมาตรฐานฯมาใช้งานให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทยต่อไป

 

ด้าน “แหล่งข่าวในวงการการเงินรายหนึ่ง” เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า การนำ IFRS9 มาใช้จะส่งผลกระทบต่อทุกกิจการที่ถือสินทรัพย์ทางการเงินและหนี้สินทางการเงิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจสถาบันการเงินจะได้รับผลกระทบมากกว่าธุรกิจอื่น เนื่องจากมีเครื่องมือทางการเงินจำนวนมาก

ทั้งนี้ การเลื่อนประกาศใช้มาตรฐานการบัญชี IFRS9 ออกไปเป็นปี 2565 จะช่วยลดแรงกดดันที่มีต่อกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และธุรกิจเช่าซื้อ เนื่องจากมาตรฐานบัญชีดังกล่าว ส่งผลให้กลุ่มธนาคารจะต้องทำการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญมากขึ้นตามมาตรฐานบัญชีใหม่ที่ต้องตั้งสำรองเต็มจำนวนของมูลหนี้ที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตตั้งแต่วันแรกที่อนุมัติสินเชื่อจากเดิมที่สามารถทยอยตั้งสำรองจนครบได้

โดยประเด็นนี้ที่ผ่านมาถูกคาดการณ์ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคารในปีที่ผ่านมา และในปีนี้เนื่องจากต้องตั้งสำรองให้ครบก่อนประกาศใช้ในปี 2562

ดังนั้น เท่ากับว่าหากมีการเลื่อนปรับใช้มาตฐานบัญชีฉบับใหม่ออกไปอีก 3 ปี จะเป็นประเด็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มธนาคาร และหุ้นลิสซิ่ง เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวยังสามารถทยอยตั้งสำรองจากการปล่อยกู้ที่ผ่านมาได้จนกว่าจะครบกำหนดประกาศใช้ในปี 2565

Back to top button