มหาเศรษฐีระดับโลก”บิล เกตส์-วอร์เรน บัฟเฟตต์”ซัดบิตคอยด์แค่พนัน ชี้ตลาดหุ้นยังน่าสนใจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (7 พ.ค.) นาย Bill Gates (บิล เกตส์), Co-Founder of Microsoft Corp นักธุรกิจชาวอเมริกัน และหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และ นาย Warren Buffet (วอร์เรน บัฟเฟตต์), Chairman of Berkshire Hathaway Inc. มหาเศรษฐีและนักลงทุนชื่อดังระดับโลก แสดงความคิดเห็นตรงกันว่าการลงทุนใน Bitcoins (บิตคอยด์) ไม่น่าสนใจ

โดยนายบิล เกตส์ มองว่า Bitcoins เป็น greater fool theory ขณะที่นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่าสถานการณ์ของบิตคอยด์ ปัจจุบันเปรียบเสมือนวิกฤตฟองสบู่ทิวลิป (Tulip Bulb Mania) ในช่วงศตวรรษที่ 17

ทั้งนี้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการตั้งราคาสัญญาการค้าขายหัวทิวลิปสายพันธุ์ใหม่กันอย่างสูงผิดปกติจนถึงจุดสูงสุดก่อนที่ราคาจะตกฮวบลงมาอย่างฉับพลันในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1637 ในระหว่างที่ความคลั่งทิวลิปกำลังอยู่ที่จุดสูงสุด ราคาสัญญาการซื้อขายดอกทิวลิปต่อหัวสูงเกินสิบเท่าของรายได้ต่อปีของช่างฝีมือในช่วงระยะเวลาเดียวกัน เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นเหตุการณ์แรกของภาวะฟองสบู่จากเก็งกำไร

นอกจากนี้นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่านักลงทุนบิตคอยด์กำลังพนันว่าราคาบิทคอยด์จะขึ้นต่อไปได้ แม้จะไม่มีความเข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังลงทุนอยู่อย่างถ่องแท้

ทั้งนี้การออกมาแสดงความเห็นของทั้ง 2 มหาเศรษฐี ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินระดับโลก ส่งผลให้ราคาบิตคอยด์วันที่ 7 พ.ค.61 ตามเวลาประเทศไทยปรับลดลงร้อยละ 4.2 ในช่วงสั้นๆ ขณะที่ Ethereum ปรับลดลงกว่าร้อยละ 6 โดย Ethereum อาจจะได้รับผลกระทบเชิงลบเพิ่มเติมจากประเด็นหารือระหว่างหน่วยงานควบคุมต่างๆ เรื่องการพิจารณาว่า Ethereum ควรจัดเป็นสินทรัพย์ประเภทหนึ่งหรือไม่

นอกจากนี้ ด้านความเห็นการลงทุนอื่นๆ นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ เห็นว่าการลงทุนในตราสารทุนยังคงมีความน่าสนใจกว่าตราสารหนี้ แม้ว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะ 10 และ 30 ปี ในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 3