“พิชญ์” ยันไม่มีแผนขายหุ้น MONO สยบ “ไอ้โม่ง” ปล่อยข่าวลือทุบหุ้น

“พิชญ์” สยบข่าวลือไอ้โม่งปล่อยข่าวเล็งเทขายหุ้น MONO ที่ถืออยู่ทั้งหมด 64.20% ออกมา พร้อมยืนยันไม่เป็นความจริง และไม่มีการขายหุ้นทำลายราคาหุ้นตัวเองแน่นอน! ฟากธุรกิจทีวีรายได้เติบโตดี การันตีผลงานไตรมาส 2-4/61 ดีกว่าไตรมาสแรกแน่นอน


นายพิชญ์ โพธารามิก ประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ MONO เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่าตนเองจะขายหุ้น MONO ที่ถืออยู่ทั้งหมดจำนวน 2,228.36 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 64.20% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดออกมานั้นขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีแผนที่จะขายหุ้นออกมาทำลายหุ้นของตนเองแน่นอน

ขณะที่แนวโน้มธุรกิจทีวีกำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี และมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง โดยผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ปกติจะเป็นโลว์ซีซั่นของอุตสากรรม และแนวโน้มผลประกอบการจากนี้ตั้งแต่ไตรมาส 2-4 ของปี 2561คาดว่าจะดีขึ้น

“มีข่าวลือว่าผมจะขายหุ้น MONOที่ถืออยู่ทั้งหมด 64.20% ออกมา ผมขอยืนยันไม่เป็นความจริง และจะไม่มีการขายหุ้นมาทำลายราคาหุ้นตัวเองแน่นอน ขณะที่ธุรกิจทีวีกำลังเติบโตไปในทิศทางที่ดี รายได้เติบโตต่อเนื่อง ส่วนไตรมาสแรกโดยปกติเป็น โลว์ซีซั่นของอุตสาหกรรม และแนวโน้มผลประกอบการจากนี้ไป ตั้งแต่ไตรมาส 2-4จากนี้คาดว่ามีแต่จะดีขึ้น” นายพิชญ์ กล่าว

ทั้งนี้ ผลประกอบการไตรมาส 1/2561 MONOมีกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 3.68 ล้านบาท หรือลดลง 15.90% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2560 ที่มีกําไรสุทธิ 23.15 ล้านบาท และมีรายได้รวม 640.15 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 7.10 ล้านบาท หรือลดลง1.10% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2560 ที่มีรายได้ 647.25 ล้านบาท

ด้านราคาหุ้น MONO ณ เวลา 16.05 น. อยู่ที่ระดับ 3.10 บาท ลดลง 0.20 บาท หรือ 6.06% สูงสุดที่ระดับ 3.34 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 256.58 ล้านบาท

ขณะที่ บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ซื้อ” โดยอยู่ระหว่างปรับประมาณการใหม่จากกำไรสุทธิไตรมาส 1/61 คิดเป็นเพียง 5% ของคาดกำไรสุทธิทั้งปี อย่างไรก็ตามยังชอบแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่จะดีขึ้น จากปัจจัยบวกจากความสามารถรักษาระดับเรตติ้งให้อยู่ใน 5 อันดับแรกได้ต่อเนื่อง และโอกาสในการปรับอัตราค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นได้รวมทั้งการควบคุมบริหารต้นทุนให้คงที่ ราคาเป้าหมายที่ 5.20 บาท (อ้างอิงวิธี DCF, WACC 8%, terminal growth 2%) หากพิจารณา EV/EBITDA ปี 2018F อยู่ที่ 15.8 เท่า ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 17.3 เท่า

Back to top button