ข้อมูลศก.สหรัฐหนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดวานนี้ปรับขึ้น
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) ขานรับข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ในขณะที่กรีซใกล้ถึงกำหนดการชำระหนี้คืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันที่ 5 มิ.ย.
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.2% ปิดวานนี้ (1 มิ.ย.) ที่ 400.57 จุด, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,436.05 จุด เพิ่มขึ้น 22.23 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,025.30 จุด เพิ่มขึ้น 17.41 จุด หรือ +0.35% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,953.58 จุด ลดลง 30.85 จุด หรือ -0.44%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 52.8 จากเดือนเม.ย.ที่ระดับ 51.5 ซึ่งนอกจากจะเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์แล้ว ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ยังขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 29
อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ โดยกรีซมีกำหนดจะต้องชำระหนี้คืน IMF ในงวดเดือนมิ.ย. ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 5-19 มิ.ย. มูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์
นายนิคอส โวทซิส รมว.มหาดไทยของกรีซกล่าวว่า กรีซจะไม่สามารถชำระหนี้หนี้ให้กับ IMF ในงวดเดือนมิ.ย.ได้ นอกเสียจากว่ากรีซจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินเพิ่มเติม ซึ่งการแสดงความเห็นของนายโวทซิสสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่กรีซหลายคนที่ออกมาเตือนอย่างเปิดเผยในช่วงก่อนหน้านี้
หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นโรช โฮลดิงส์ ดีดตัวขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทมีความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง สว่นหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน หุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปรับขึ้น 1% ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษวางแผนที่จะขายหุ้นในลอยด์ แบงกิ้งให้กับนักลงทุนบางกลุ่มในปีหน้า