ดอลล์ปรับขึ้นรับข้อมูลภาคการผลิตสหรัฐแข็งแกร่ง

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (1 มิ.ย.) หลังข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้ช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ในปีนี้


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5203 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5290 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 124.84 เยน เทียบกับระดับ 124.06 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9456 ฟรังก์ จาก 0.9401 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7605 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7655 ดอลลาร์

กิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนพ.ค.ขยายตัวเป็นเดือนที่ 29 ติดต่อกัน โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนพ.ค.ขยายตัวแตะ 52.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.และสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด หลังจากแตะระดับ 51.5 ในเดือนมี.ค. ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งได้หนุนความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ และเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวขึ้น

ขณะเดียวกัน เทรดเดอร์ต่างจับตาดูวิกฤตหนี้สินของกรีซอย่างใกล้ชิด โดยยูโรเผชิญแรงกดดัน เนื่องจากกรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้ 300 ล้านดอลลาร์แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์

Back to top button