“ดีโอดี ไบโอเทค” ลุยขาย IPO 110 ล้านหุ้น เทรด mai กลางปี 61 ชูธุรกิจอาหารเสริมแบบครบวงจร

“ดีโอดี ไบโอเทค” หรือ DOD ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ลุยขาย IPO 110 ล้านหุ้น เข้าเทรด mai กลางปีนี้ ชูธุรกิจอาหารเสริมแบบครบวงจร โดยมี บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย


บริษัท ดีโอดี ไบโอเทค จำกัด (มหาชน) หรือ DOD เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยมี บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เคที ซีมิโก้ จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย มั่นใจเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai กลางปีนี้

ทั้งนี้ บริษัทมีวัตถุประสงค์นำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้เพื่อลงทุนในโรงงานสกัดวัตถุดิบ (โรงที่ 2) เพื่อสกัดสารสกัด ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร รวมถึงการสกัดเพื่อจำหน่ายในประเทศและส่งออก และลงทุนในห้องปฏิบัติการวิจัยระดับสากล โดยมีการขอรับรองมาตรฐาน ISO 17025 สามารถตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะของสารสกัดที่ได้จากโรงสกัด รับจ้างตรวจสอบทางเคมีและทางจุลชีววิทยาให้กับหน่วยงานอื่น และเพื่อรักษาความลับทางการค้า

รวมถึงเพื่อใช้พัฒนาตราสินค้าใหม่ของบริษัทฯ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุที่มุ่งเน้นการมีสุขภาพที่ดี และผลิตภัณฑ์สมุนไพรตรีผลาที่มีคุณสมบัติช่วยดูแลสุขภาพ ฟื้นฟูระบบการทำงานของร่างกาย ช่วยในระบบย่อยและขับถ่าย นอกจากนี้ จะนำเงินไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ด้านนางสาวศุภมาส อิศรภักดี ประธานกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ ของ DOD เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplement Product) ที่มีส่วนประกอบหลักมาจากสารสกัดจากธรรมชาติ โดยให้บริการครบวงจร แบบ One Stop Service ตั้งแต่ การคิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า การขึ้นทะเบียนเลขสารบบอาหาร การออกแบบสินค้าและบรรจุภัณฑ์

อีกทั้ง มีการให้คำปรึกษาด้านการตลาดและช่วยหาช่องทางในการจัดจำหน่าย ตลอดจนการผลิตและการควบคุมการผลิตที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล โดยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารภายใต้ตราสินค้าที่ผลิตจากโรงงานของบริษัทฯ ทุกผลิตภัณฑ์ได้รับการขึ้นทะเบียนเลขสารบบอาหารจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อย่างถูกต้องครบถ้วน ซึ่ง 1 เลขสารบบอาหาร สำหรับ 1 ตราสินค้าเท่านั้น จึงมั่นใจได้ในมาตรฐานของผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

ทั้งนี้ บริษัทฯให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Research and Development) เนื่องจากการวิจัยและพัฒนา เป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

โดยบริษัทฯ มีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีประสบการณ์ด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึงการยกระดับพืชสมุนไพรไทย บริษัทฯ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี และ Know-how ในการสกัดเพื่อให้ได้สาระสำคัญที่ต้องการและมีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

พร้อมทั้งยังยกระดับมาตรฐานการผลิต โดยการผลิตในห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) ซึ่งเป็นมาตรฐานการผลิตเดียวกับการผลิตผลิตภัณฑ์ยามาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในคุณภาพของสินค้าและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

“ด้วยเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งพัฒนาสู่การเป็นผู้นำในการรับผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพื่อความงาม และสุขภาพที่มีคุณภาพสูง ที่เกิดจากงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานสากล DOD จึงไม่หยุดที่จะค้นคว้าวิจัยสารสกัดจากธรรมชาติของไทย เพื่อต่อยอดนวัตกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมุ่งสร้างอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน” นางสาวศุภมาส กล่าว

สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ย้อนหลัง ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงล่าสุดไตรมาส 1/2561 มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องและก้าวกระโดด โดยปี 2558 มีรายได้รวม 385.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 128.89 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 368.37 ล้านบาท กำไรสุทธิ 138.78 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้รวม 388.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 142.19 ล้านบาท

ขณะที่ ผลการดำเนินงานงวดล่าสุดไตรมาส1/2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 214.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111.21 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯมีศักยภาพการขยายตัวทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิ

ด้าน นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า DOD เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.83 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน

โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว 150 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท และจะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 205 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนหุ้น 410 ล้านหุ้น โดยการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 110 ล้านหุ้น ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก ซึ่งได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้เสนอขายหุ้นดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ขณะที่ นายคมกฤต มีคำสัตย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย เปิดเผยว่า เบื้องต้นจะมีการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ทั้งนักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนทั่วไปในเร็วๆ นี้ และคาดจะเปิดให้มีการจองซื้อหลักทรัพย์ พร้อมทั้งเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ภายในช่วงกลางปีนี้อย่างแน่นอน

Back to top button