สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 21 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว โดยปัจจัยบวกดังกล่าวได้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 25,000 จุดได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,013.29 จุด พุ่งขึ้น 298.20 จุด หรือ +1.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,733.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.04 จุด หรือ +0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,394.04 จุด เพิ่มขึ้น 39.70 จุด หรือ +0.54%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์เช่นกัน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 80.38 จุด หรือ +1.03%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.3% ปิดที่ 395.87 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ปีนี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,637.51 จุด เพิ่มขึ้น 23.00 จุด, +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,859.17 จุด เพิ่มขึ้น 80.38 จุด, +1.03% ส่วนตลาดหุ้นเยอรมันปิดทำการจันทร์ที่ 21 พ.ค. เนื่องในวัน Whit Monday
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 ปีเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า การผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลามีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบ หากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนเซุเอลา หลังจากที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งระบุว่านายนิโคลัส มาดูโร ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 72.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย. 2557
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 71 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 79.22 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ส่งผลให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดน้อยลง นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นออย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,290.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ 0.40% ปิดที่ 16.52 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 13.3 ดอลลาร์ หรือ 1.50% ปิดที่ 899.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 30.20 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 990.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) หลังจากสหรัฐและจีนได้ตกลงที่จะระงับการทำสงครามการค้าเป็นการชั่วคราว โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเป็นสองชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 111.10 เยน จากระดับ 110.67 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9978 ฟรังก์ จากระดับ 0.9977 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1772 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1775 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3414 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3482 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7569 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ