สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 23 พ.ค. 2561
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 23 พ.ค. 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 1-2 พ.ค.เมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนมองว่ารายงานดังกล่าวไม่ได้ส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวดเร็วไปกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค.
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,886.81 จุด เพิ่มขึ้น 52.40 จุด หรือ +0.21% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,425.96 จุด เพิ่มขึ้น 47.50 จุด หรือ +0.64% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,733.29 จุด เพิ่มขึ้น 8.85 จุด หรือ +0.32%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของกลุ่มยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า โอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จะไม่เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้ในเดือนหน้า
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 392.58 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,976.84 จุด ลดลง 193.08 จุด หรือ -1.47% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,565.85 จุด ลดลง 74.25 จุด หรือ -1.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,788.44 จุด ลดลง 89.01 จุด หรือ -1.13%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า โอกาสสูงมากที่การประชุมสุดยอดระหว่างตัวเขา และนายคิม จะไม่เกิดขึ้นตามแผนการที่วางไว้ในเดือนหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,788.44 จุด ลดลง 89.01 จุด หรือ -1.13%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์ในเดือนพ.ค.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.40 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ 1289.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 17 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 16.405 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.88% ปิดที่ 900.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 15.70 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 971.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 36 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 71.84 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ต่างก็ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากดัชนี PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1700 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1778 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3351 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3429 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7563 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐแข็งเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9962 ฟรังก์ จากระดับ 0.9929 ฟรังก์ แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.08 เยน จากระดับ 111.00 เยน