WORK ร่วง 7% ต่ำสุดในรอบ 16 เดือน สวนคสช.ประกาศม.44 อุ้มทีวีดิจิตอล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WORK  ณ เวลา 12.18 น. อยู่ที่ระดับ 45.25 บาท ลบ 3.25 บาท หรือ 6.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 241.02 ล้านบาท ราคาหุ้นปรับตัวแรงในรอบ 16 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นลงไปทดสอบระดับ 45.25 บาท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.60

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า (+) คสช.ประกาศใช้มาตรา 44 ช่วยผู้ประกอบการ TV Digital พักค่าธรรมเนียมไลเซนส์ และ ลดค่าเช่าโครงข่ายยังเลือก WORK เป็น Top pick : วานนี้(23พ.ต.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาลงคำสั่ง คสช.ให้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการ TV Digital และมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่วันที่ประกาศ คือ 1) พักชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเป็นเวลา 3 ปี สำหรับเงินงวดที่ยังไม่ชำระแต่ต้องจ่ายชำระค่าดอกเบี้ยที่อัตรา 1.5%ต่อปี และ 2) ช่วยรับผิดชอบค่าบริการโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) โดยลดค่าเช่าโครงข่ายลง 50% เป็นเวลา 2 ปี มองทั้ง  มาตรการเป็นบวกต่อผู้ประกอบการTV Digital (WORK RS BEC MCOT MONO MCOT GRAMMY และ AMARIN)  โดยตรง คือ 1) ช่วยเพิ่มกระแสเงินสดและประหยัดดอกเบี้ยจ่ายสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องกู้เพื่อชำระค่าไลเซนต์ 2) ลดค่าเช่าโครงข่ายจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุนหนุนกำไรของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นโดยช่อง SD จะประหยัดค่าเช่า 28 ล้านบาทต่อปี และช่อง HD จะประหยัดได้ 83 ล้านบาทต่อปี มอง BEC ได้ประโยชน์มากสุดจากจำนวนช่องในมือสูงสุดของกลุ่ม ขณะที่ WORK RS และ MONO คาดหนุนกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 2%, 3% และ 9% ตามลำดับ

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เมื่อวานนี้ (23 พ.ค.61) คสช.ประกาศม.44 ช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล โดยให้ผู้ประกอบการพักชำระค่าใบอนุญาต 3 ปี แต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตราที่ธปท.กำหนด ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1.5% รวมทั้งให้กสทช.สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการเช่าโครงข่ายทีวีภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) 50% เป็นเวลา 24 เดือน ซึ่งมีผู้ประกอบการยื่นขอพักชำระค่าใบอนุญาต 20 ราย ยกเว้นช่อง 35 (ช่อง 7) ที่จ่ายไปก่อนหน้าแล้ว 372 ล้านบาทและช่อง 23 (WORK) ที่จ่ายแล้ว 395 ล้านบาท ทังนี้กสทช.จะเป็นผู้พิจารณาว่าช่องใดจะได้รับการขยายเวลาฯ และลดค่า MUX 50% โดยดูจากพฤติกรรมผู้ประกอบการว่ารายใดเคยฝ่าฝืนคำสั่งคสช.หรือไม่

เป็นบวกระยะสั้นกับกลุ่มทีวีดิจิตอล – โดยเฉพาะบริษัทที่มีผลประกอบการไม่ดีนัก ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันเรื่องสภาพคล่องทางการเงิน และสามารถลงทุนพัฒนาโปรแกรมและคอนเทนต์ได้มากขึ้นในช่วงที่ไม่ต้องจ่ายค่าใบอนุญาต…ทั้งนี้ BEC จะได้รับประโยชน์มากที่สุดเพราะมีใบอนุญาต 3 ใบ และได้ลดค่า MUX ลงปีละ 140 ล้านบาท ซึ่งมีนัยยะต่อผลประกอบการ เพราะปี 60 บริษัทมีกำไรสุทธิเพียง 61 ล้านบาท ขณะที่ RS และ WORK ได้ประโยชน์จากส่วนนี้ 7% และ 3% ของกำไรสุทธิ ตามลำดับ แต่สำหรับปี 61 จะได้รับประโยชน์ประมาณ 7 เดือนเพราะการลดค่า MUX มีผลบังคับใช้ 23 พ.ค.61

ส่วนในระยะยาว เราเห็นว่าอุตสาหกรรมยังมีความท้าทายสูงจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ชมทีวีน้อยลง – โดยมีแนวโน้มว่าผู้บริโภคจะชมผ่านมือถือ โน้ตบุ๊ค แทบเล็ต มากขึ้น ซึ่งการโฆษณาจะเข้าไปทางสื่อประเภทนั้น ดังนั้นผู้ประกอบการที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปดีและยั่งยืนในระยะยาวจะต้องมีการพัฒนาคอนเทนต์ เพื่อให้มีเรทติ้งสูงๆ, หารายได้จากธุรกิจอื่นๆ ที่ใช้สื่อทีวีช่วยได้ เช่น การค้าขายสินค้าออนไลน์ และการบริหารต้นทุน & ค่าใช้จ่ายดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ  หุ้นเด่นในกลุ่มนี้เป็น WORK (เป็นผู้นำด้านรายการวาไรตี้ และขยับตัวหารายได้การค้าขายผ่านออนไลน์มากขึ้น) และ RS (ประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจด้านความงามและสุขภาพ สามารถทำกำไรจากส่วนนี้ได้เป็นนัยสำคัญ)