สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 24 พ.ค. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,811.76 จุด ลดลง 75.05 จุด หรือ -0.30% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,727.76 จุด ลดลง 5.53 จุด หรือ -0.20% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,424.43 จุด ลดลง 1.53 จุด หรือ -0.02%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐได้ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.5% ปิดที่ 390.54 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,548.45 จุด ลดลง 17.40 จุด หรือ -0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,716.74 จุด ลดลง 71.70 จุด หรือ -0.92% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,855.09 จุด ลดลง 121.75 จุด หรือ -0.94%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) โดยได้รับปัจจัยกดดันจากเงินปอนด์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะพิจารณาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนส.ค.

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,716.74 จุด ลดลง 71.70 จุด หรือ -0.92%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) จากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเดิมมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 14.80 ดอลลาร์ หรือ 1.15% ปิดที่ 1304.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28.2 เซนต์ หรือ 1.72% ปิดที่ 16.687 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 11.8 ดอลลาร์ หรือ 1.31% ปิดที่ 912.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 967.50 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมเดือนหน้า เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.ปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 78.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตัดสินใจยกเลิกการประชุมสุดยอดกับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ข้อพิพาทด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อดอลลาร์เช่นกัน

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.30 เยน จากระดับ 110.08 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9915 ฟรังก์ จากระดับ 0.9962 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1727 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1700 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3385 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3351 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7563 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button