BGRIM ร่วง 1.22% ระส่ำข่าวกฟผ.ปฏิเสธย้าย 2 โรงไฟฟ้าไปสมุทรปราการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดตลาดที่ระดับ 24.50 บาท ล่าสุด ณ เวลา 10.01 น. อยู่ที่ 24.20 บาท ปรับตัวลดลง 0.30 บาท หรือ 1.22% สูงสุดที่ 24.50 บาท ต่ำสุดที่ 24.20 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 45.32 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปรับตัวลดลงภายหลังจากมีกระแสข่าวว่า แหล่งข่าวจากสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระบุว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ปฏิเสธการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี.กริม เพาเวอร์ ราชบุรี หรือ BGPR1 และโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม บี.กริม เพาเวอร์ ราชบุรี 2 หรือ BGPR2 กำลังการผลิตรวม 240 เมกะวัตต์ (MW) ไปยังนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย สุวรรณภูมิ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จากเดิมที่มีการก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม ต.รางบัว จ.ราชบุรี และได้ส่งหนังสือไปยัง BGRIM แล้ว

ทั้งนี้ นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการนโยบายและแผน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้มีหนังสือตอบกลับผู้อำนวยการ สนพ.แล้วตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. 2561 ซึ่งระบุว่า กฟผ.พิจารณาการขอย้ายที่ตั้งของโรงไฟฟ้า BGPR1 และ BGPR2 จากเดิมที่จะมีการก่อสร้างในนิคมอุตสาหกรรม วี.อาร์.เอ็ม. ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ไปยังพื้นที่ใหม่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยพบว่าการเชื่อมต่อระบบไฟฟ้าของ กฟผ.ไม่สามารถรองรับการย้ายโรงไฟฟ้าของ BGRIM ได้

นอกจากนี้ กฟผ.ยังระบุว่า แม้กรณีการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าจะสามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎเกณฑ์ และข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้าในภาพรวม จึงเห็นควรให้ BGRIM พิจารณาพื้นที่ใกล้เคียงกับที่ตั้งเดิม เช่น จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรสงคราม จ.ราชบุรี หรือ จ.นครปฐม จึงจะมีความเหมาะสมกว่า

โดยหาก BGRIM ไม่สามารถขอย้ายพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าไปยังนิคมแห่งใหม่ได้โดยเร็ว ก็จะส่งผลให้วันเริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า (SCOD) เพื่อให้เปิดดำเนินการซื้อขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ภายในวันที่ 1 มิ.ย. 2561 ตามกำหนดในสัญญาไม่สามารถทำได้เช่นกัน

นอกจากนี้แหล่งข่าวฯ กล่าวอีกว่า การพิจารณาการย้ายพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าของ BGRIM เป็นอำนาจของสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ไม่ใช้อำนาจของ สนพ. ซึ่งทาง BGRIM ติดปัญหาเรื่องผังเมืองมาตั้งแต่ต้น โดยก่อนหน้านี้ BGRIM ได้ทำหนังสือถึง กกพ. ระบุว่าการย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการดังกล่าว เป็นความผิดของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาโครงการต่อไปได้ จึงต้องขอย้ายที่ตั้งโรงไฟฟ้า ทั้งที่จริง ๆ แล้วการพิจารณาพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ต่าง ๆ บริษัทจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่โดยรอบคอบ จึงอาจไม่ใช่ความผิดของ กนอ.แต่อย่างไร

ทั้งนี้มีการตั้งข้อสังเกตว่า การเลือกที่ตั้งโรงไฟฟ้าเพื่อดำเนินโครงการในแต่ละครั้ง ในทางปฏิบัติต้องมีการศึกษาเรื่องพื้นที่อย่างรอบคอบ น่าจะพบข้อมูลเรื่องผังเมืองของจังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่ตั้งนิคมฯ วี.อาร์.เอ็ม. ในตำบลรางบัวที่มีลักษณะผังเมือง เป็นที่ดินประเภทอนุรักษ์ป่าไม้ และที่ดินปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวห้ามสร้างโรงไฟฟ้า แต่เหตุใด BGRIM ถึงเลือกพื้นที่ในนิคมฯ วี.อาร์.เอ็ม. เพื่อพัฒนาโครงการ

โดย โรงไฟฟ้าประเภท SPP สามารถสร้างในพื้นที่อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องสร้างในนิคมฯ เท่านั้น ดังนั้นไม่น่าจะถือว่าเป็นความผิดของ กนอ.ที่ประกาศหยุดนิคมฯ จนทำให้ไม่สามารถสร้างโรงไฟฟ้าทั้ง 2 โครงการได้ แต่น่าจะถือเป็นความผิดพลาดในขั้นตอนของการเลือกพื้นที่สร้างโรงไฟฟ้าที่ติดปัญหาผังเมืองมากกว่า