FC หวังชุบผลงานพลิกฟื้น ส่ง “เอ สัจเดว์” นั่งเก้าอี้ CEO ขับเคลื่อนธุรกิจพลังงานทดแทน
FC ปรับโครงสร้างผบห.ส่ง “เอ สัจเดว์” นั่งเก้าอี้ CEO ขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ เชื่อเบนเข็มสู่พลังงานดันผลงานเทิร์นอราวด์
บริษัท ฟู้ด แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ FC จัดประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยมีมติแต่งตั้ง นายเอ สัจเดว์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2561 เป็นต้นไป
โดย นายเอ สัจเดว์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุน ภายใต้บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัท FC มีประสบการณ์ทำงานด้านการลงทุน ในธุรกิจโรงแรม ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
รวมถึงเคยทำงานร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศมากกว่า 15 ปี ในฐานะวาณิชธนากร ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทำให้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับตลาดทุนเป็นอย่างดี มีความเหมาะสมเข้ารับตำแหน่ง CEO ในช่วงรอยต่อของ FC ระหว่างการเปลี่ยนถ่ายจากธุรกิจอาหารเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อทำความเข้าใจกับ Stakeholder ของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุนทั่วไป คู่ค้าหรือแม้แต่หน่วยงานกำกับตลาดทุน
ประการสำคัญนายเอ ได้รับความไว้วางใจจากทั้งผู้ถือหุ้นเดิมกลุ่มศรีชวาลา และกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่บริษัทไพร์ม โรด แคปปิตอล จำกัด ให้เข้ามาบริหารบริษัทในช่วงรอยต่อดังกล่าว เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของFC เป็นไปด้วยความราบรื่น
“ผมมีความยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลักดันองค์กรให้เดินหน้าต่อไป เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีคืนให้กับผู้ถือหุ้นในรูปของผลตอบแทนจากเงินปันผลโดยเร็ว เพราะกระบวนการในการโอนหุ้นและเปลี่ยนถ่ายธุรกิจคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/61 ทำให้ FC ก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มตัว และสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการขายไฟฟ้าได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/61 เป็นต้นไป ทำให้ผลประกอบการพลิกมีกำไรทันที จากยอดขายไฟในมือ (COD) ที่มีจำนวน 132MW จาก 17 โครงการและอยู่ระหว่างขอใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า(PPA) อีก 7 โครงการ รวมประมาณ 68 MW” นายเอ กล่าว
ขณะที่ บริษัทฯยังคงมองหาโอกาสในการเข้าลงทุนธุรกิจพลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อผลักดันการเติบโตในอนาคตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของ “ผู้สื่อข่าว” พบว่า ผลประกอบการที่ผ่านมาของ FC นั้น ยังประสบผลขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งขาดทุนสุทธิ 251.87 ล้านบาท ขณะที่ปี 2560 มีผลขาดทุนสุทธิสูงถึง 943.33 ล้านบาท
ด้านผลประกอบการไตรมาส 1/2561 ขาดทุนสุทธิ 149.84 ล้านบาท เป็นที่น่าจับตาว่า ภายหลังจากที่บริษัทเปลี่ยนธุรกิจหลักมาเป็นธุรกิจพลังงานทดแทนจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่ และนายเอ สัจเดว์ ซึ่งเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารจะมีแผนบริหารธุรกิจอย่างไรให้ผลประกอบการกลับมามีกำไรอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามหากมีข้อมูลในประเด็นดังกล่าวเพิ่มเติม “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบในครั้งต่อไป