สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 4 มิ.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอปเปิลที่ได้รับแรงซื้อส่งเข้าหนุนอย่างคึกคัก หลังจากบริษัทประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 12 ในงานประชุมผู้พัฒนาทั่วโลก (WWDC) ซึ่งแอปเปิลได้จัดขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวแข็งแกร่งเกินคาดในเดือนพ.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,813.69 จุด เพิ่มขึ้น 178.48 จุด หรือ +0.72% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,746.87 จุด เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือ +0.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,606.46 จุด เพิ่มขึ้น 52.13 จุด หรือ +0.69%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) ขานรับข่าวควบรวมกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงรายงานข่าวที่ว่า ยูนิเครดิต กำลังพิจารณาควบรวมกิจการกับธนาคารโซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองในยุโรป

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 388.11 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,770.75 จุด เพิ่มขึ้น 46.48 จุด หรือ +0.37% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,741.29 จุด เพิ่มขึ้น 39.52 จุด หรือ +0.51% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,472.91 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด หรือ +0.14%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสถานการณ์การเมืองในยุโรปที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น รวมทั้งข่าวการควบรวมกิจการและเข้าซื้อกิจการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงรายงานข่าวที่ว่า ยูนิเครดิต กำลังพิจารณาควบรวมกิจการกับธนาคารโซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน)

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,741.29 จุด เพิ่มขึ้น 39.52 จุด หรือ +0.51%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อาจมีมติปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เพื่อสกัดความร้อนแรงของราคาน้ำมัน และชดเชยการผลิตที่ลดลงของอิหร่านและเวเนซุเอลา อันเนื่องมาจากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 64.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการ อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบจำกัด เพราะได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 2 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1297.30  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 16.431 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 903.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 994.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) หลังจากสถานการณ์การเมืองในยุโรปเริ่มส่งสัญญาณในด้านบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวการจัดตั้งรัฐบาลผสมในอิตาลี ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนี PMI ภาคบริการ และดุลการค้า

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1697 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1663 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.3315 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3345 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7653 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7570 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.72 เยน จากระดับ 109.53 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ0.9881 ฟรังก์ จากระดับ 0.9887 ฟรังก์

 

Back to top button