BANPU ดีดกลับ 3.88% แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง-เล็งรับรู้โครงการหงสาใน H2/58
BANPU ดีดกลับ 3.88% แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง-เล็งรับรู้โครงการหงสาใน H2/58
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ณ เวลา 10.25 น. อยู่ที่ระดับ 26.75 บาท บวก 1.00 บาท หรือ 3.88% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 170.35 ล้านบาท ราคาหุ้นดีดกลับหลังร่วงมาเกือบกว่า 1 เดือน โดยนับตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 31.50 บาท เมื่อวันที่ 7 เม.ย.58 คาดได้เวลาขึ้นรอบใหม่
บล.เคเคเทรด ระบุในบทวิเคราะห์ฯวันนี้ (3 มิ.ย. 58) ว่า แนะซื้อหุ้น BANPU ราคาหุ้นปรับลดลง 11% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดและราคาถ่านหินที่ลดลง แต่ปัจจัยพื้นฐานยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยคาดว่ากำไร BANPU จะมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้ไตรมาส 2/58 โรงไฟฟ้า BLCP จะมี Unplanned Shutdown และปริมาณขายถ่านหินจาก CEY ที่ลดลงเนื่องจากมีแผนย้ายอุปกรณ์ แต่ยังเชื่อว่าจะเห็นกำไรสุทธิไตรมาส 2/58 เติบโต ขณะที่กำไรสุทธิครึ่งหลังปี 58 เติบโตต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการหงสา(หน่วยที่ 1) เต็มไตรมาส
โดยโครงการหงสาเดินหน้าตามแผน โครงการหงสาถือเป็น Key Drive สำคัญของผลประกอบการของ BANPU ในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในครึ่งหลังปี 58 ที่จะรับรู้รายได้จากหน่วยที่ 1 เต็มไตรมาส และหน่วยที่ 2 ในอีก 2 เดือนสุดท้ายของปี ขณะที่กำไรปกติ ไตรมาส1/58 คิดเป็น 22% ของประมาณการปี 2558 โดยโครงการดังกล่าวจะทำกำไรในปี 2558 อยู่ที่ 469 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท และ 3 พันล้านบาท ในปี 2559 – 2560 (BANPU ถือหุ้นในโครงการโรงไฟฟ้าหงสาสัดส่วน 40%)
ส่วนธุรกิจถ่านหินผ่านจุดต่ำสุดแล้ว แต่ยังมีความเสี่ยง โดยยังคงสมมติฐานราคาถ่านหินปี 58 ที่ 60 เหรียญต่อตัน ลดลง 15.4%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจยังมีปัญหา Over Supply ขณะที่การนำเข้าถ่านหินจากเมืองจีนจะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัว
อย่างไรก็ตามแรงกดดันต่อราคาถ่านหินจะเริ่มลดลง หลังจากความต้องการใช้จากประเทศผู้ผลิตหลักอย่างอินโดนีเซียเริ่มปรับเพิ่ม ทำให้ตลาดคาดหมายว่าจะมีการส่งออกถ่านหินจากประเทศผู้ผลิตหลักลดลง ขณะที่สหรัฐฯ มีการปิดเหมืองถ่านหินต้นทุนสูงอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณส่งออกถ่านหินสะสมในปี 2558 (YTD) ลดลง 6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ระยะยาวยังเชื่อว่า Demand ราคาถ่านหินยังมีโอกาสปรับเพิ่ม จากแผนขยายโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ของประเทศในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะจากอินเดีย ด้านธุรกิจถ่านหินของ BANPU เชื่อว่าราคาขายจะยังคงได้รับผลกระทบจากภาพรวมธุรกิจ แต่อัตรากำไรขั้นต้นจะเริ่มฟื้นตัวจาก 32% ในปี 2557 เป็น 35% ในไตรมาส1/58 ที่ผ่านมาจากแผนการลดต้นทุนผลิต ทำให้เชื่อว่าจุดต่ำสุดของธุรกิจถ่านหิน BANPU ผ่านไปแล้ว