สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 5 มิ.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและบรรดาประเทศคู่ค้า ซึ่งรวมถึงสหภาพยุโรป (EU) อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปรับตัวลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ภาคบริการของสหรัฐขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในเดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำสถิติปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,799.98 จุด ลดลง 13.71 จุด หรือ -0.06% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,748.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.93 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,637.86 จุด เพิ่มขึ้น 31.40 จุด หรือ +0.41%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของอิตาลี ขณะที่รัฐบาลชุดใหม่ของอิตาลีภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต กำลังพยายามใช้มาตรการปรับลดหนี้สินมูลค่ามหาศาลในขณะนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 386.89 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,460.95 จุด ลดลง 11.96 จุด หรือ -0.22% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,686.80 จุด ลดลง 54.49 จุด หรือ -0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,787.13 จุด เพิ่มขึ้น 16.38 จุด หรือ +0.13%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของเงินปอนด์เป็นปัจจัยฉุดหุ้นบริษัทข้ามชาติ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นธนาคารรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ (RBS) หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษได้ปรับลดการถือครองหุ้นในธนาคารแห่งนี้

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,686.80 จุด ลดลง 54.49 จุด หรือ -0.70%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยให้สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้อีกครั้ง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.90 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,302.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.2 เซนต์ หรือ 0.68% ปิดที่ 16.543 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.24% ปิดที่ 901.30 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 8.60 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 985.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หลังจากมีรายงานว่าสหรัฐได้เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 1 ล้านบาร์เรล/วัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 77 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 65.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ขยับขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 75.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ขานรับข้อมูลภาคบริการที่สดใสของสหรัฐ

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1714 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1697 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.3393 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3315 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.7615 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7653 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 109.74 เยน จากระดับ 109.72 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9846 ฟรังก์ จากระดับ 0.9881 ฟรังก์

Back to top button