“ทรัมป์-คิม”เดินทางถึงสิงคโปร์แล้ว!เตรียมประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์วันพรุ่งนี้
"ทรัมป์-คิม"เดินทางถึงสิงคโปร์แล้ว!เตรียมประชุมซัมมิตครั้งประวัติศาสตร์วันพรุ่งนี้
ประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ต่างก็เดินทางถึงสิงคโปร์แล้วเมื่อวานนี้(10มิ.ย.) ก่อนที่จะประชุมสุดยอดร่วมกันในวันพรุ่งนี้(12มิ.ย.) ที่โรงแรมคาเปลลา บนเกาะเซนโตซาของสิงคโปร์ ในเวลา 09.00 น.ตามเวลาสิงคโปร์ โดยคาดว่าการประชุมครั้งประวัติศาสตร์นี้จะเป็นตัวกำหนดอนาคตแห่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้เดินทางถึงฐานทัพอากาศสิงคโปร์ด้วยเครื่องบินแอร์ ฟอร์ซ วัน เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาสิงคโปร์เมื่อวานนี้ โดยปธน.ทรัมป์ได้บินตรงมาจากเมืองควิเบค ประเทศแคนาดา หลังจากเข้ารับการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7
ทางด้านนายคิมได้เดินทางถึงสนามบินชางงีของสิงคโปร์ด้วยสายการบินแอร์ ไชน่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ตามเวลาสิงคโปร์เมื่อวานนี้ โดยนายคิมได้เข้าพบกับนายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ พร้อมกับกล่าวถึงการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐและเกาหลีเหนือในครั้งนี้ว่า เป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ และทั่วโลกกำลังจับตาการประชุมครั้งนี้อย่างใกล้ชิด
สำหรับประเด็นสำคัญที่น่าจับตาก็คือว่า ผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือจะตกลงกันได้หรือไม่ในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี และทั้งสองฝ่ายจะยอมลงนามในข้อตกลงยุติสงครามเกาหลีหรือไม่ โดยในทางเทคนิคนั้น สงครามเกาหลียังไม่ยุติ เนื่องจากข้อตกลงที่ได้มีการลงนามร่วมกันเมื่อปี 1953 นั้น เป็นเพียงข้อตกลงสงบศึกชั่วคราว ยังไม่ใช่การยุติสงครามอย่างเป็นทางการ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาตร์ในด้านการจัดระเบียบความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หลังจากที่ภูมิภาคแห่งนี้ได้รับผลกระทบนับตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ทั้งนี้ คาดว่า ปธน.ทรัมป์จะเรียกร้องให้นายคิมกำหนดโรดแมพที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ขณะเดียวกันคาดว่านายคิมจะเรียกร้องให้สหรัฐรับประกันความมั่นคงให้กับเกาหลีเหนือ พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะปลดอาวุธนิวเคลียร์ “อย่างเป็นขั้นเป็นตอน และต่อเนื่อง”
หากทางฝั่งสหรัฐพอใจในคำมั่นสัญญาของเกาหลีเหนือในเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ ก็มีความเป็นไปว่า ปธน.ทรัมป์ และนายคิม อาจจะประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ในการประชุมสุดยอดครั้งนี้