กลยุทธ์ลงทุน โบรกฯ เน้น “Selective buy” 3 กลุ่มหุ้นเด็ด พร้อมจับตา 3 ประเด็นสำคัญวันนี้

บล.กรุงศรี ระบุว่า มีมุมมองเป็นกลาง-ลบ คาดดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 1,710 – 1,730 จุด โดยถูกแรงกดดันจากความขัดแย้งในการประชุม G7 หลังผู้นำหลายประเทศโจมตีสหรัฐประเด็นการกีดกันทางการค้าโลก

นอกจากนี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการประชุมสำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ การประชุมสหรัฐ-เกาหลีเหนือ (12 มิ.ย.) การประชุม FOMC ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2% (12-13 มิ.ย.) และ การประชุม ECB ที่คาดว่าจะลดการใช้ QE ลงจากปัจจุบันที่ 30,000 ล้านยูโร/เดือนซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนก.ย. (14 มิ.ย.)

อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อหนุนดัชนีสลับเด้งรีบาวด์ตามเทคนิคหากย่อตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับเดิม 1,710 จุด

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

1.BANPU LANNA ราคาถ่านหินพุ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือนล่าสุดพุ่งแตะระดับ 113.85 US/Tons

2.กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว (Bottom out) อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG และ ANAN

3.คาดหุ้นเข้า SET50 : KTC, DELTA, TOA, GLOW, BGRIM หุ้นออก SET50 : KCE, SAWAD, PSH, BCP, CBG

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ประชุม G7 จบไม่สวย สหรัฐไม่รับรองแถลงการณ์ร่วม อีกทั้งยั้งเตรียมปรับขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ทำให้สงครามการค้ายังดูรุนแรง : เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดคาดหวังการประชุม G7 จะเป็นเวทีในการเจรจาและแก้ปัญหาสงครามการค้าให้ผ่อนคลายลง แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้ามแม้ประเทศสมาชิกส่วนใหญ่จะออกแถลงการณ์ร่วมและเห็นพ้องถึงความจำเป็นของการค้าเสรีและให้ความสำคัญกับการต่อต้านการกีดกันการค้า แต่สหรัฐกลับไม่รับรองในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าว อีกทั้งยังเตรียมพิจารณาเรียกเก็บภาษี รถยนต์ และ รถบรรทุก ที่นำเข้าจากต่างประเทศ

(+/-) คาดราคาน้ำมันดิบ WTI สัปดาห์นี้จะยัง Sideways ในกรอบ 64-66$/bbl ตามเดิม เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวก/ลบใหม่และรอการประชุม OPEC ในช่วงปลายเดือน : เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้ เนื่องจากเชื่อว่านักลงทุนจะรอดูความชัดเจนของการประชุมของกลุ่ม OPEC ในช่วงวันที่ 22 มิ.ย. ว่าจะมีมติเพิ่มหรือลดกำลังการผลิตหรือไม่

ดังนั้นในระยะสั้นราคาจึงขึ้นลงตามข่าวของดีมานด์ และซัพพลายในแต่ละวัน อาทิ การผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบของสหรัฐยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจีนนำเข้าลดลงสะท้อนอุปสงส์น้ำมันดิบที่ชะลอตัว แต่เราเชื่อว่าประเด็นข่าวเหล่านี้เป็นที่คุ้นเคยของตลาดอยู่แล้วจึงไม่ทำให้การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันเกิดความผันผวนรุนแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา

(+/-) สัปดาห์หน้าติดตามการประชุมสหรัฐ-เกาหลีเหนือ และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ และสหภาพยุโรป : สัปดาห์หน้ามี 3 ปัจจัยหลักให้ติดตาม คือ 1) สหรัฐ- เกาหลีเหนือ ประชุมยุติสงครามนิวเคลียร์ในวันที่ 12 มิ.ย.

ขณะเดียวกัน 2) ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐในวันที่ 12-13 มิ.ย. และตลาดคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% แต่ประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจอยู่ที่จำนวนครั้งของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่เหลือมากกว่า ซึ่งปัจจุบันตลาดคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง ดังนั้นหาก Dot plot หรือ จำนวนครั้งของการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 ครั้งจะเป็นลบกับตลาด

รวมทั้ง 3)ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินยุโรป (ECB) ตลาดคาด ECB อาจพิจารณาปรับลดวงเงิน QE หลังสิ้นสุดโครงการในช่วงปลายปีนี้