หุ้นยุโรปิดวานนี้ปรับขึ้นรับอีซีบีเดินหน้าซื้อบอนด์
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเป็นส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (3 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ระบุว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ไปจนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.ปีหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวานนี้ (3 มิ.ย.) ที่ 5,034.17 จุด เพิ่มขึ้น 29.71 จุด หรือ +0.59%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,419.62 จุด เพิ่มขึ้น 90.82 จุด หรือ +0.80% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,950.46 จุด เพิ่มขึ้น 22.19 จุด หรือ +0.32% อย่างไรก็ตาม ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 395.93 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนายดรากีเปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB จะเดินหน้าการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE จนเสร็จสิ้นโครงการในเดือนก.ย.ปีหน้า โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน ส่วนในการประชุม ECB เมื่อวานนี้ ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ ECB ยังได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนที่ -0.20% ซึ่งหมายความว่า ธนาคารพาณิชย์จะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้แก่ ECB หากมีการนำเงินมาฝากกับทาง ECB
หุ้นเนสเล่ ปรับตัวลง 0.8% หลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานด้านการดูแลอาหารในกรุงนิวเดลีของอินเดียจะระงับการขายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป Maggi ของบริษัทเนสเล่เป็นการชั่วคราว หลังจากพบสารตะกั่วในปริมาณที่สูงในตัวอย่างอาหาร หุ้นเมอร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ ปรับตัวลง 0.48% ส่วนหุ้นอาร์เซลอร์มิททาล พุ่งขึ้น 3.05% หุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับขึ้น 2.23% และหุ้นอัลสตอม ทะยานขึ้น 2.18%
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่า เศรษฐกิจจะเติบโต 2.5% ในปีนี้ และ 2.6% ในปีหน้า จากเดิมที่คาดการณ์ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 2.9% สำหรับปีนี้และปีหน้า ขณะที่การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ การแข็งค่าของปอนด์, ภาวะซบเซาในตลาดที่อยู่อาศัย และประสิทธิภาพการผลิตที่ระดับต่ำ