GPSC กู้ก่อน 1.4 แสนล้านซื้อ GLOW 69.11% จ่อเพิ่มทุน 7.4 หมื่นลบ.ใช้หนี้ภายหลัง
GPSC กู้ก่อน 1.4 แสนล้านซื้อ GLOW 69.11% จ่อเพิ่มทุน 7.4 หมื่นลบ.ใช้หนี้ภายหลัง
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เตรียมใช้เงินลงทุน 97,559 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อหุ้น บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) หรือ GLOW จำนวน 69.11% จาก Engie Global Developments B.V. ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในราคาหุ้นละ 96.50 บาท หลังจากนั้นจะทำคำเสนอซื้อหุ้น GLOW ที่เหลือ 30.89% ซึ่งหากทุกรายตอบรับการซื้อหุ้น 100% ก็จะทำให้ต้องใช้เงินซื้อกิจการครั้งนี้จำนวน 141,166 ล้านบาท
โดยบริษัทจะใช้เงินกู้ระยะสั้นไม่เกิน 142,500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 12 เดือน เพื่อรองรับการเข้าทำธุรกรรมครั้งนี้ ซึ่งหนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อระยะสั้นกำหนดให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างเงินทุน เบื้องต้นอาจพิจารณาเพิ่มทุนไม่เกิน 74,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นภายในเม.ย.62
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน GPSC สนับสนุนให้บริษัทเข้าซื้อกิจการ GLOW ในครั้งนี้ เนื่องจากจะเป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการดำเนินงานและรองรับโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ขณะที่การเข้าซื้อกิจการ GLOW จะทำให้กำลังผลิตไฟฟ้าของ GPSC เพิ่มขึ้นราว 1.5 เท่า มาที่ระดับ 4,835 เมกะวัตต์ (MW)
ขณะที่เช้าวันนี้ (20 มิ.ย.) GPSC แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) อนุมัติให้บริษัทซื้อหุ้น GLOW จาก Engie Global Developments B.V. ทั้งทางตรงและทางอ้อม จำนวนรวมทั้งสิ้น 1,010,976,033 หุ้น หรือ 69.11% ในราคาซื้อขายหุ้นละ 96.50 บาท คิดเป็นเงินรวมประมาณ 97,559 ล้านบาท
โดยราคาซื้อขายดังกล่าวอาจมีการปรับลดลงได้เป็นจำนวนเท่ากับเงินปันผลจ่ายต่อหุ้น หาก GLOW มีการจ่ายเงินปันผลก่อนเงื่อนไขบังคับก่อนเสร็จสิ้นลง ซึ่งบริษัทได้เข้าลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นกับผู้ขายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.61 (สัญญาซื้อขายหุ้น) และเบื้องต้นคาดว่าเงื่อนไขบังคับก่อนทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนต.ค.61
ขณะที่บริษัทมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW เป็นจำนวนทั้งสิ้น 451,889,002 หุ้น หรือ 30.89% ภายหลังจากการทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้น ซึ่งหากผู้ถือหุ้น GLOW ทุกรายตอบรับคำเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ GLOW จำนวนหุ้น GLOW ที่บริษัทจะได้มาทั้งหมดจะเท่ากับ 1,462,865,035 หุ้น หรือ 100% ซึ่งจะใช้เงินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 141,166 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังอนุมัติให้บริษัทกู้ยืมเงินจำนวนไม่เกิน 142,500 ล้านบาท จากสถาบันการเงินและ/หรือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนระยะสั้น (ไม่เกิน 12 เดือน) เพื่อรองรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดของ GLOW พร้อมทั้งมอบหมายให้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ มีอำนาจในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นในการกู้ยืมเงินระยะสั้นสำหรับรองรับธุรกรรมการซื้อขายหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดดังกล่าว
อนึ่ง หนึ่งในเงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้นจำนวนไม่เกิน 142,500 ล้านบาทนั้น กำหนดให้บริษัทต้องดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท รวมถึงการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทภายในเม.ย.62 เพื่อพิจารณาเรื่องการเพิ่มทุนของบริษัท
ทั้งนี้ ในเบื้องต้นบริษัทอาจพิจารณาเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 74,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำเสนอแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทพิจารณาและอนุมัติต่อไป นอกจากนี้ เงื่อนไขของสินเชื่อเงินกู้ระยะสั้นนั้นได้กำหนดให้บริษัทต้องนำเงินปันผลรับสุทธิที่ได้รับจาก GLOW ในช่วงระยะเวลา 12 เดือนมาชำระคืนเงินกู้ระยะสั้นด้วย
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท ยังเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นกู้ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในวงเงินรวมไม่เกิน 68,500 ล้านบาท หรือในสกุลเงินอื่นในอัตราเทียบเท่า พร้อมทั้งเห็นชอบให้ผู้ถือหุ้นมอบอำนาจให้คณะกรรมการบริษัทมีอำนาจในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นทุกประการที่เกี่ยวกับการออกและเสนอขายหุ้นกู้
ทั้งนี้ อนุมัติแต่งตั้งให้ บริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระของบริษัท เพื่อให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าทำธุรกรรมการซื้อขายหุ้นและการทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมดแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท โดยบริษัทจะจัดส่งรายงานความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้แก่ผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาพร้อมกับการจัดส่งหนังสือเชิญประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ส.ค.61 เพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวต่อไป
อนึ่ง GLOW เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าและผู้ให้บริการด้านสาธารณูปโภคทางอุตสาหกรรมในภาคเอกชนรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ณ สิ้นธ.ค.60 มีฐานการผลิตไฟฟ้าหลัก 8 แห่ง กำลังผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งสิ้น (Installed capacity) 3,207 เมกะวัตต์ และกำลังผลิตไอน้ำทั้งสิ้น 1,206 ตัน/ชั่วโมง กำลังผลิตน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม 5,482 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และกำลังการผลิตน้ำเย็น 3,400 ตันความเย็น
สำหรับประโยชน์ที่บริษัทคาดว่าจะได้รับนั้น เห็นว่าการเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการขยายธุรกิจในกลุ่มธุรกิจไฟฟ้าเพื่อเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งจะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 1.5 เท่า จากกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นในปัจจุบันที่ 1,940 เมกะวัตต์ เป็น 4,835 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ยังจะสามารถรองรับและสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกลุ่มบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ในการเติบโตภายใต้แผนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เนื่องจากสามารถเชื่อมโยงโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคไปยังลูกค้าอุตสาหกรรมในมาบตาพุดและบริเวณใกล้เคียงในพื้นที่EEC ที่อาจมีความต้องการการใช้ไฟฟ้าและสาธารณูปโภคในอนาคตได้
ด้าน GLOW แจ้งว่าได้รับแจ้งจาก Engie Global Development B.V. ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นว่าได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นกับ GPSC ในวันนี้ เพื่อขายหุ้นและผลประโยชน์ทั้งหมดที่ Engie ถืออยู่ในบริษัทให้แก่ผู้ซื้อ คิดเป็นสัดส่วน 69.11% โดยธุรกรรมการซื้อขายหุ้นครั้งนี้มีมูลค่ารวม 97,559 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาซื้อขายที่ 96.50 บาทต่อหุ้น
อนึ่ง ราคาหุ้น GLOW ปิดตลาดเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 92.50 บาท บวก 3.25 บาท หรือ 3.64% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.32 พันล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้น GPSC อยู่ที่ 71.50 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 2.05% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 312.98 ล้านบาท