กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ โบรกฯ แนะ “Selective buy” 4 ธีมหุ้นมีปัจจัยบวก

กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ โบรกฯ แนะ “Selective buy” 4 ธีมหุ้นมีปัจจัยบวก


บล.กรุงศรี มีมุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัว 1,655 – 1,680 จุด โดยแม้ว่าราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นหลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดโดยลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล เป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานและภาวะตลาด

อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นแรงกดดันโดยล่าสุด EU ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าสหรัฐมูลค่า 3.2 พันล้านดอลลาร์ในกลุ่มสินเค้าเกษตร เหล็ก และอะลูมิเนียมซึ่งจะมีผลพรุ่งนี้ (22 มิ.ย.) ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะกดดันให้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ประกอบกับความกังวล Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องโดยเป็น Net sell 4 หมื่นลบ. MTD. , Net sell 1.7 แสนลบ. YTD. ยังเป็นตัวถ่วงภาวการณ์ลงทุนในช่วงนี้

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective buy

1.BANPU ราคาถ่านหินทรงตัวระดับสูงในรอบ 6 ปีล่าสุด 115.3 US/Tons

2.กลุ่มธนาคาร ได้อานิสงส์แนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ขยายตัวต่อเนื่อง

3.กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ และ อาหาร ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 32.8 Bath/USD

4.กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG, GCAP และ ANAN

ส่วนประเด็นสำคัญวันนี้

(+) น้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.15 $/bbl หลังสหรัฐรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบลดลงเกินคาด : วานนี้ EIA รายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 5.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 3.7 ล้านบาร์เรล สต๊อกน้ำมันดิบที่ลดลงบ่งชี้ถึงดีมานด์ที่สูงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ตอบรับเชิงบวกโดยเพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ (1.8%) ปิดที่ 66.22$/bbl แต่น้ำมันดิบ BRENT ปรับตัวลง 34 เซนต์ (-0.5%) ปิดที่ 74.74 $/bbl เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูผลการประชุมของกลุ่ม OPEC ในวันศุกร์นี้

(-) สหภาพยุโรปออกมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐเริ่มมีผลวันพรุ่งนี้ คาดกระทบตลาดจำกัดเนื่องจากมูลค่าเรียกเก็บค่อนข้างน้อย : หลังจากที่สหภาพยุโรป ออกมาตรการทางภาษีเพื่อตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมของ EU โดย EU จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐมูลค่า 2.8 พันล้านยูโร (3.24 พันล้านดอลลาร์)

โดยสินค้าดังกล่าวประกอบด้วย สินค้าเกษตร, เหล็ก และอะลูมิเนียมจากสหรัฐ เราประเมินผลกระทบจากมาตรการในครั้งนี้จะมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นจำกัดเนื่องจากมูลค่าสินค้าที่ EU เรียกเก็บภาษีมีมูลค่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับ มาตรการที่สหรัฐและจีนตอบโต้กันที่ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

(+) แบงก์ชาติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ตามคาด แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าขึ้นเป็นขยายตัว 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ : วานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% ตามเดิม โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่เห็นว่าภาวะดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันเป็นระดับที่เหมาะสมในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว ทั้งนี้แบงก์ชาติยังมองบวกต่อทิศทางเศรษฐกิจในปีนี้

โดยคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็นขยายตัว 4.4% จาก 4.1% และเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีหน้าเป็นขยายตัว 4.2% จาก 4.1% จากการปรับเพิ่มสมมติฐานของ การส่งออก, การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปีนี้เป็นขยายตัว 9%, 3.7% และ 3.7% ตามลำดับ แต่ลดคาดการณ์การใช้จ่ายจากภาครัฐลงเป็นโต 8.9% จาก 9.5%

Back to top button