โบรกฯ เน้น “Selective Buy” 17 หุ้นเด่นมีปัจจัยบวกหนุน พร้อมจับตา 3 ประเด็นสำคัญวันนี้

โบรกฯ เน้น “Selective Buy” 17 หุ้นเด่นมีปัจจัยบวกหนุน พร้อมจับตา 3 ประเด็นสำคัญวันนี้


บล.กรุงศรี ระบุว่า แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัว 1,608-1,630 จุด แม้ว่าภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นยืนเหนือ 72 US/Barrel หลังสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงถึง 9.9 ล้านบาร์เรล (มากกว่าคาด)

รวมถึงสหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆและบริษัทน้ำมันให้ยุติการซื้อน้ำมันจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐคว่ำบาตร นอกจากนี้การทำ Window dressing ปิดงบไตรมาส 2/61 คาดว่าจะเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน

อย่างไรก็ตามความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆยังทวีความรุนแรงมากขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐยังคงเดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้มทางการค้ากับจีนจะตัวกดดันให้ภาวะตลาดผันผวนต่อไป

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนวันนี้  Selective Buy

1.กลุ่มพลังงาน ( PTTEP และ PTT ) ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือ 72 US/Barrel

2.กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ( KCE ) และอาหาร ( CPF และ GFPT ) อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าล่าสุด 33 Bath/USD

3.กลุ่มผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว อาทิ CPF, BANPU, TKN, EPG, GCAP และ ANAN

4.AOT, BH, CPALL, CPN, CBG และ MINT คาดเป็นกลุ่มที่มีโอกาสทำ Window dressing เนื่องจากราคา Underperform ตลาดในช่วงที่ผ่านมา

ส่วนประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มธุรกิจน้ำมัน – ยังได้แรงหนุนต่อหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแรงต่อเนื่องอีก 3.2% ตอบรับสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงเกินคาด : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 2.23 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 72.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ตอบรับสหรัฐรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐลดลง 9.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล บ่งชี้ถึงดีมานด์น้ำมันดิบที่แข็งแกร่งในสหรัฐ

ขณะที่ฝั่งซัพพลายยังได้แรงหนุนจากข่าวสหรัฐสั่งห้ามบริษัทน้ำมันนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. อย่างไรก็ตามด้วยราคาน้ำมันดิบที่พุ่งแรงในช่วง 2 วันที่ผ่านมาอาจจะทำให้ราคาในตลาดฟิวเจอร์วันนี้เผชิญแรงขายทำกำไร

(-) ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์เคลื่อนไหวผันผวน โดยช่วงแรกดัชนีปรับตัวขึ้นแรงกว่า 200 จุด ตอบรับข่าวท่าทีที่ผ่อนคลายของโดนัล ทรัมป์ต่อการดำเนินนโยบายการค้ากับจีน โดยเขาจะมอบหมายให้คณะกรรมการการลงทุนของต่างประเทศในสหรัฐ (CFIUS) เป็นผู้ดูแลนโยบายการลงทุนจากจีน แทนการใช้มาตรการจำกัดการลงทุน

อย่างไรก็ตามดัชนีกลับมาลดลงและปิดในแดนลบหลังมีรายงานจากที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาวระบุว่า สหรัฐไม่ได้ผ่อนคลายท่าทีต่อการดำเนินนโยบายการค้ากับจีน ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 24,117.59 จุด ร่วงลง 165.52 จุด หรือ -0.68

(+) Window dressing, SETSET ยังคาดหวังว่าบรรดากองทุนต่างๆ จะเร่งทำ NAV เพื่อเปิดขายกองทุนใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยการเข้าทำราคาปิดในช่วงปลายเดือน (Window dressing) และคาดว่ากองทุนที่ลงทุนตาม SET50/SET100 จะเข้าซื้อหุ้นที่เข้าคำนวณรอบใหม่ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ค.

Window dressing หุ้นที่คาดว่าจะเป็นเป้าหมาย อาทิ AOT, BH, CPALL, CPN, CBG และ MINT

SET50 : เข้า  –  BGRIM, DELTA, GLOW, KTC, RATCH และ TOA (เน้น BGRIM)

SET100 : เข้า  –  BGRIM, BLA, DELTA, ERW, GLOW, PRM, RATCH, RS, THANI, TOA และ TTW

Back to top button