TOP อัดฉีด 1.6 แสนลบ. ลงทุนโครงการ CFP ดันกำลังการกลั่นน้ำมันดิบทะลุ 4 แสนบาร์เรล/วัน
TOP อัดฉีด 1.6 แสนลบ. ลงทุนโครงการ CFP ดันกำลังการกลั่นน้ำมันดิบทะลุ 4 แสนบาร์เรล/วัน จ่อชงผถห. 27 ส.ค.นี้ คาดเริ่มก่อสร้าง พ.ค.62 แล้วเสร็จใน Q1/66
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP เปิดเผยว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2561 เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2561 เห็นชอบการลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project) หรือ CFP และให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนโครงการ CFP ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของบริษัทฯ
นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังส่งผลให้กาลังการกลั่นน้ามันดิบของบริษัทเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 275,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน ก่อให้เกิดการประหยัดด้านขนาด (Economies of scale) ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถยืนหยัดอย่างมั่นคงในธุรกิจการกลั่นน้ามันปิโตรเลียมในอนาคต และเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ
อีกทั้งโครงการ CFP ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยโครงการมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 160,279 ล้านบาท และมีประมาณการดอกเบี้ยระหว่างก่อสร้าง 151 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 5,016 ล้านบาท
อนึ่ง สกุลเงินเหรียญสหรัฐฯและอัตราเทียบเท่าบาทตามที่อ้างถึงในเอกสารฉบับนี้เป็นการคำนวณโดยใช้อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทย (อัตราขายถัวเฉลี่ยสำหรับสกุลเงินเหรียญสหรัฐฯ ประจำวัน) ประจำวันที่ 28 มิถุนายน 2561 ซึ่ง 33.2185 บาทเท่ากับ 1 เหรียญสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามแผนการลงทุนโครงการ CFP ภายในเดือนกันยายนของปี 2561 และคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในเดือนพฤษภาคมของปี 2562 โดยการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1 ปี 2566
อย่างไรก็ตาม การลงทุนโครงการ CFP ดังกล่าวเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพยสิน และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์พ.ศ. 2547 (ตามที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“ประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”)
โดยมีขนาดของรายการสูงสุดเท่ากับร้อยละ 68.58 ตามเกณฑ์มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทน โดยเปรียบเทียบกับมูลค่าของสินทรัพยร์วมของบริษัทฯ ซึ่งคำนวณจากงบการเงินรวมของบริษัทฯ ฉบับสอบทาน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ซึ่งจัดเป็น “รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ประเภทที่ 1” ตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์บริษัทฯ ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการลงทุนโครงการ CFP โดยต้องได้ร้บคะแนนเสียงจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนเสียงทั้งหมดของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน โดยไม่นับส่วนของผู้ถือหุ้นที่มีส่วนได้เสีย
พร้อมอนุมัติการแต่งตั้ง บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพยให้ความเห็นชอบเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ (IFA) เพื่อทำหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการ CFP แก่ผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ได้อนุมัติการเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ในวันที่ 27 สิงหาคม 2561 โดยอนุมัติการกำหนดวันกำหนดสิทธิผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 (Record Date) ในวันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2561