สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้
สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจประจำวันที่ 4 มิ.ย.58
– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 124 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 124.54/56 เยน/ดอลลาร์
– ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1348 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.11258/1161 ดอลลาร์/ยูโร
– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,490.90 จุด เพิ่มขึ้น 8.83 จุด, +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 36,487.33 ล้านบาท
– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,674.81 ล้านบาท (SET+MAI)
– ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค.58 อยู่ที่ 75.6 โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และต่ำสุดในรอบ 11 เดือน เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวและยางพาราที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ภาวะภัยแล้งที่ส่งผลต่อภาคการเกษตร ตลอดจนการส่งออกที่ยังหดตัวลง ทำให้กำลังซื้อโดยรวมทั่วประเทศยังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในปีนี้ มองว่าจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่การส่งออกของไทยน่าจะเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงนั้น โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจยังคาดว่าทั้งปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ในกรอบ 3.0-3.5%
– นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง มั่นใจว่า การเบิกจ่ายงบลงทุนปีงบประมาณ 2558 จะทำได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย หลังจากล่าสุด ถึงวันที่ 29 พ.ค. 2558 เบิกจ่ายภาพรวมได้ 1.66 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 64.7% เป็นการเบิกจ่ายงบประจำ 1.47 ล้านล้านบาท หรือ 67.6% และเป็นการเบิกจ่ายงบลงทุน 1.87 แสนล้านบาท หรือ 41.7% ของงบลงทุนทั้งหมด 4.49 แสนล้านบาท ถือเป็นการเบิกจ่ายสูงกว่าช่วงเดียวกันก่อนมากที่เบิกจ่ายได้ 20-22%
– บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ทีมเศรษฐศาสตร์ของบริษัทคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)จะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงอีก 25bps ในการประชุมวันที่ 10 มิ.ย.หลังจาก กนง.ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้งรวม 50bps ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาลงมาเหลืออยู่ที่ 1.50% เนื่องจาก 4 เหตุผลสำคัญ 1.อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังแข็งค่าไป 2.ดัชนีภาคการผลิตที่ยังอ่อนแอต่อเนื่อง 3.ยังคงมีพื้นที่ในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากสถานการณ์เงินฝืดในขณะนี้ และ 4.การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐ
– บล. โกลเบล็ก ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยประจำเดือน มิ.ย.58 ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสผันผวนมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศกรีซที่ยังไม่มีความชัดเจนต่อปัญหาการชำระหนี้ที่จะครบกำหนดชำระให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จำนวน 1,600 ล้านยูโรในเดือนมิ.ย. จึงให้กรอบดัชนีไว้ที่ระดับ 1,460-1,520 จุด รวมถึงแรงกดดันจากกลุ่มธนาคารจากความกังวลหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในส่วนของเอสเอ็มอี และรายย่อย รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงขาเดียว ซึ่งกระทบต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)
– นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เตรียมยื่นข้อเสนอใหม่ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ ภายหลังจากที่การเจรจานัดคืนวันพุธที่ผ่านมานั้น รัฐบาลกรีซและเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในบางประเด็น
– นายเออร์กี ลิคาเนน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางยุโรป (ECB) เผย ECB เตรียมความพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปจนกว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนจะฟื้นตัวขึ้น จากปัจจุบันที่เคลื่อนไหวในระดับต่ำมาก
– สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 65 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,955 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,185.03 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 7.03 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์