ดาวโจนส์ปิดวานนี้ร่วง 170 จุด ตลาดวิตก IMF ลดคาดการณ์ศก.สหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่ากรีซจะไม่สามารถชำระคืนหนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ทันกำหนดในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจาก IMF ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐ
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดวานนี้ (4 มิ.ย.) ที่ 17,905.58 จุด ร่วงลง 170.69 จุด หรือ -0.94%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,059.12 จุด ลดลง 40.11 จุด หรือ -0.79% และดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,095.84 จุด ลดลง 18.23 จุด, -0.86%
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซยังคงส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลก โดยล่าสุดมีรายงานว่า แกนนำหลายคนของพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของกรีซ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า พวกเขาไม่สามารถยอมรับข้อเสนอที่ประเทศเจ้าหนี้ยื่นให้กับนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
การประชุมระหว่างนายซิปราสและกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่สามารถตกลงกันได้ในบางประเด็น ในขณะที่กรีซมีกำหนดที่จะต้องชำระคืนเงินกู้กว่า 300 ล้านดอลลาร์แก่ IMF ในวันนี้ ซึ่งเป็นงวดแรกของการชำระคืนในช่วงเดือนมิ.ย.ที่มีมูลค่ารวมราว 1.6 พันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันอย่างหนักหลังจาก IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนเม.ย.ที่ 3.1% โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น การแข็งค่าของดอลลาร์ และสภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงาน ทั้งนี้ IMF ได้แนะนำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นปีหน้า เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงซบเซา
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นำโดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ปรับลง 0.9% ส่วนหุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นไดมอนด์ ออฟชอร์ ดริลลิง ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.8%, หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ดิ่งลง 1.4% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลง 0.9% ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค. และสินเชื่อผู้บริโภคเดือนเม.ย.