จังหวะช้อน DDD หลังร่วงหนัก 9% นิวโลว์ตั้งแต่เข้าตลาดฯ ฟากโบรกฯชี้กำไรปีนี้โต 58%
จังหวะช้อน DDD หลังร่วงหนัก 9% นิวโลว์ตั้งแต่เข้าตลาดฯ ฟากโบรกฯชี้กำไรปีนี้โต 58% โดย ณ เวลา 15.19 น. ราคาอยู่ที่ 53 บาท บวก 5.25 บาท หรือ 9.01% สูงสุดที่ 58.50 บาท ต่ำสุดที่ 51.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84.13 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้นบริษัท ดู เดย์ ดรีม จำกัด (มหาชน) หรือ DDD ณ เวลา 15.19 น. ราคาอยู่ที่ 53 บาท บวก 5.25 บาท หรือ 9.01% สูงสุดที่ 58.50 บาท ต่ำสุดที่ 51.25 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 84.13 ล้านบาท
ทั้งนี้ ราคาหุ้น DDD ปรับตัวลงต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.60
ด้าน บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ (6 มิ.ย.) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 79 บาท/หุ้น โดยจากการเติบโตต่อเนื่องของอุตฯ เครื่องสำอาง และทำให้ปัจจุบันมีมูลค่าตลาดสูงถึง 3.0 แสนล้านบาท บวกกับมุมมองในอนาคตที่คาดยังโตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปีละ 8% ทำให้ทางฝ่ายประเมินโอกาสเติบโตของ DDD ยังมีอีกมากจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในไลน์การผลิตเดิม และการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่
นอกจากนี้ ด้วยสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นที่ชื่นชอบทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ (จีนและฮ่องกง) ทำให้ยอดขาย DDD คาดยังได้รับผลบวกจากแนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ยังโตดี ประกอบกับช่องทางจำหน่ายภายในประเทศที่มีการกระจายตัวมากยิ่งขึ้น
ขณะที่การเพิ่มช่องทางจำหน่ายในจีนจากเดิมผ่าน Cross Border Trade เป็นการเข้าสู่ Mainstream Online Platform และ Offline ได้ จาก 3 ใน 19 ผลิตภัณฑ์หลังผ่านมาตรฐาน CFDA และในอนาคตคาดมีสินค้าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทางฝ่ายคาดถือเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่จะช่วยผลักดันยอดขายต่างประเทศเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากมูลค่าตลาดเครื่องสำอางในจีนที่มีมากกว่า 1 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้ผลดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/61 จะออกมาโตน้อยกว่าที่ตลาดประเมินก่อนหน้า แต่อย่างไรก็ดีทางฝ่ายคาดเป็นเพียงผลกระทบช่วงสั้นเท่านั้น ในขณะที่ช่วงที่เหลือของปีและต่อเนื่องไปอีก 2 ปีข้างหน้า DDD จะยังสามารถบรรลุเป้าหมายกำไรได้ โดยทางฝ่ายประเมินกำไรปี 2561 คาดโต 57.9% จากปีก่อน แตะระดับ 554 ล้านบาท และโตต่อเนื่องในปี 2562-2563 เฉลี่ยปีละ 29.0% จากปีก่อน ด้วยแรงหนุนบวกจากการออกสินค้าเพิ่มเติม 2-3 รายการต่อปี ซึ่งนับรวมทั้งสินค้าใหม่และสินค้าเดิมในผลิตภัณฑ์แบบซอง
พร้อมทั้งการกระจายตัวของช่องทางจำหน่ายที่ครอบคลุมมากกว่าเดิม หลัง DDD ว่าจ้าง บจ. ซีโน-แปซิฟิก เป็นผู้กระจายสินค้าไปยังร้านค้าดั้งเดิมทั่วไทยที่มีมากกว่า 4.4 แสนร้านค้า รวมถึงการเพิ่มจุดจำหน่ายใน King Power อีก 4 สาขา จากเดิมที่มีอยู่ 2 สาขา และผลบวกจากการประหยัดต่อขนาดตามการเติบโตยอดขาย โดยทางฝ่ายคาด GPM ทรงตัวในระดับสูงที่ 69.0% ดีกว่าปีก่อนที่ 68.1% และ SG&A/Sales ลดลงจาก 43.3% ในปี 2560 เป็น 39.4% หลังยอดขายโตเร็วกว่าการเติบโตค่าใช้จ่าย
อีกทั้งยังได้ประโยชน์ทางด้านภาษีจากการจัดตั้งบริษัทย่อยที่สิงคโปร์ (IHQ) เพื่อวัตถุประสงค์สำหรับการส่งสินค้าไปต่างประเทศ (ทั้งนี้กำไรสุทธิช่วงไตรมาส 1/61 คิดเป็น 20.2% ของประมาณการกำไรทั้งปี)
โดยทางฝ่ายเริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ DDD โดยประเมินแนวโน้มการเติบโตในอนาคตคาดยังสดใส และราคาหุ้นปัจจุบันที่ปรับตัวลงมามากคาดสะท้อนผลดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/61 ที่ต่ำกว่าตลาดคาดแล้ว โดยทางฝ่ายประเมินราคาพื้นฐานปี 2561 ที่ 79.00 บาท อิง DCF (Wacc: 8.3%; terminal g: 3.5%)