BEAUTY โคม่า! ปิดเช้าลบต่อ 20% “จรูญพันธ์” ประเมินแย่สุดเหลือ “5.70 บาท”
BEAUTY โคม่า! ปิดเช้าลบต่อ 20% “จรูญพันธ์” ประเมินแย่สุดเหลือ “5.70 บาท” โดยปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 7.25 บาท ลบ 1.85 บาท หรือ 20.33% สูงสุดที่ระดับ 8.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.56 พันล้านบาท
นายจรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัลช่อง 19 และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ว่า ก่อนหน้าที่จะมีการประชุมร่วมกันระหว่างบริษัทฯและนักวิเคราะห์วานนี้ (4 ก.ค.) ประมาณการกำไรต่อหุ้น (EPS) โดยเฉลี่ย หรือ Consensus ของหุ้น BEAUTY อยู่ที่ระดับ 0.55 บาท คิดเป็นการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) ที่ระดับ 40%
อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่นายสุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY ออกมายอมรับว่า ผลการดำเนินงานช่วงไตรมาส 2/61 จะเติบโตต่ำกว่าที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้า พร้อมกับมีการระบุว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้ (2561) จะอยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 20% ซึ่งจะส่งผลทำให้ในส่วนของตัวเลขทั้งปีได้รับผลกระทบด้วย ทางนายจรูญพันธ์จึงได้จำลองสถานการณ์ด้วยการนำตัวแปร คืออัตรากำไรสุทธิในแต่ละระดับ มาประเมินมูลค่าต่อหุ้น โดยแบ่งเป็น 2 กรณีดังต่อไปนี้
- กรณีแย่สุด (Worst Case) หาก BEAUTY มีอัตรากำไรสุทธิลดลงเหลือ 20% (จากปีก่อน 33%) จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้น หรือ EPS ติดลบ หรือหดตัวลงราว 30% ซึ่งหากอิงค่า P/E ที่ระดับ 20 เท่า ราคาหุ้น BEAUTY จะปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญมาอยู่ที่ระดับ 5.70 บาท
- กรณีดีที่สุด (Best Case) หาก BEAUTY มีอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 33% จะส่งผลให้กำไรต่อหุ้น หรือ EPS เติบโต หรือขยายตัวขึ้นได้ราว 15% ซึ่งหากอ้างอิงค่า P/E ที่ระดับ 20 เท่า เช่นกัน ราคาเหมาะสมของหุ้นจะอยู่ที่ระดับ 9.40 บาท
ทั้งนี้ มองว่าปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้น BEAUTY ถูกเทขายออกมาอย่างหนัก จนราคาหุ้นปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง เกิดจากความผิดหวังของนักลงทุนที่เน้นผลตอบแทนอัตราสูง (VI Investor-High Growth) เมื่อเห็นว่าการเติบโตของ BEAUTY ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ จึงมีแรงขายออกมาอย่างต่อเนื่องและหนาแน่น
อนึ่งราคาหุ้น BEAUTY ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 7.25 บาท ลบ 1.85 บาท หรือ 20.33% สูงสุดที่ระดับ 8.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 6.45 บาท มูลค่าซื้อขาย 8.56 พันล้านบาท