ตลาดหุ้นเอเชียเขียวยกแผง ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ แกร่งเกินคาด

ตลาดหุ้นเอเชียเขียวยกแผง ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ แกร่งเกินคาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ (9 ก.ค.61) ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ก.ค.61) ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขค่าจ้างต่อชั่วโมงซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น ขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนมิ.ย.

โดยดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 21,838.53 จุด เพิ่มขึ้น 50.39 จุด, +0.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,752.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.22 จุด, +0.19%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 28,606.16 จุด เพิ่มขึ้น 290.54 จุด, +1.03%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 10,638.90 จุด เพิ่มขึ้น 30.33 จุด, +0.29%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,276.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.05 จุด, +0.18%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,197.79 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด, +0.19%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,663.96 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด, +0.01%

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 195,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.0% โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 3.8%

ทั้งนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 5 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.2% จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ค. และเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ค. โดยการชะลอตัวของค่าจ้างในเดือนมิ.ย.ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ด้านนักวิเคราะห์จากบริษัทแฮร์ริส ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐฯ กล่าวว่า การที่นักลงทุนขานรับข้อมูลแรงงานล่าสุดของสหรัฐนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้เรียกเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากจีนจำนวนมากกว่า 800 รายการ คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

Back to top button