PEยื่นอุทธรณ์คดี“บำบัดน้ำเสียกรุงเทพฯ” แย้งกรมบังคับคดียึดหุ้นขายทอดตลาดใช้หนี้NWRพันล้าน
PE ยื่นอุทธรณ์คดี “บำบัดน้ำเสียกรุงเทพฯ” โต้แย้งกรมบังคับคดียึดหุ้นบ.ย่อยขายทอดตลาดชดใช้ค่าเสียหาย NWR พันล้าน!
สืบเนื่องจากกรณีที่ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2560 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษาให้บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PE ชำระเงินให้แก่ บริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) หรือ NWR หลังจากถูก NWR ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับกระบวนการฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเป็นคดีหมายเลขดำที่ พก.6/2558 ในฐานะบริษัทเป็นหุ้นส่วนของกิจการร่วมค้า พีอี-เพทแลนด์ ให้ร่วมรับผิดในค่างานที่กิจการร่วมค้าค้างชำระ
โดยศาลล้มละลายกลางได้มีคำพิพากษาให้บริษัทชำระเงินให้ NWR เป็นจำนวนเงิน 478,774,424.90 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงินดังกล่าว นับจากวันที่ 23 ก.ค. 2546 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.2561 ที่ผ่านมา PE ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลล้มละลายกลางในคดีพิพาทต่อศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ พร้อมทั้งได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษมีคำสั่งทุเลาการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลางไว้ก่อนด้วย โดยศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์และมีคำสั่งให้นำเสนอคำร้องขอทุเลาการบังคับคดีให้ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษเป็นผู้พิจารณาและมีคำสั่ง โดยบริษัทคาดว่าศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษจะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาคดีนี้ประมาณ 2 ปี
ทั้งนี้ ในระหว่างที่รอคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ NWR ได้รับหมายจากกรมบังคับคดีแจ้งการยึดหุ้นที่บริษัทถือครองอยู่ในบริษัท พรีเมียร์ อินเตอร์ ลิซซิ่ง จำกัด (PIL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย จำนวน 15,660,129 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.47 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทย่อย เพื่อนำหุ้นดังกล่าวไปขายทอดตลาด และนำเงินที่ขายได้มาชะระหนี้ในคดีพิพาท ตามที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งบังคับคดี
โดยหุ้นของบริษัทย่อย ยังคงเป็นกรรมสิทธิของบริษัท จนกว่าจะมีบุคคลอื่นมาซื้อจากการขายทอดตลาด และปัจจุบันยังคงดำรงฐานะเป็นบริษัทย่อย ตามที่บริษัทได้เรียนชี้แจงไว้ กรณีการยึดหุ้นของบริษัทย่อยตามคำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีภาษีอากร อย่างไรก็ตามเนื่องจากคดีพิพาทยังไม่เป็นที่สุด โดยยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษ ดังนั้นบริษัทจะใช้สิทธ์โต้แย้งการบังคับคดีหุ้นของบริษัทย่อยต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” พบว่า อัตราดอกเบี้ยที่ 7.5% ต่อปี คิดเป็นมูลค่า 35.91 ล้านบาทต่อปีในระยะเวลา 15 ปี รวมเป็นดอกเบี้ย 538.62 ล้านบาท จะเท่ากับว่าหากคิดมูลค่าเงินที่ต้องชำระบวกกับดอกเบี้ย PE ต้องชำระให้กับ NWR รวมเป็นเงินทั้งสิ้นราว 1.02 พันล้านบาท
อนึ่ง กิจการร่วมค้าพีอี-เพทแลนด์ ประกอบด้วย NWR ,บริษัท เพท เอ็นจิเนียส์ อิงค์ และบริษัท ล็อควูด แอนดรูส์ แอนด์ นิวแนม อิงค์ (พีอี-เพทแลน) จัดตั้งเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2539 เพื่อวัตถุประสงค์ในการรับเหมาก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียจากกรุงเทพมหานคร โดยในขณะที่จัดตั้งบริษัทเป็นผู้ร่วมทุนรายหนึ่ง และกิจการร่วมค้าฯได้ว่าจ้าง NWR เป็นผู้รับเหมาช่วงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งปี 2543 เป็นช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ บริษัทอยู่ในระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจและได้โอนสัดส่วนการลงทุนในบริษัท ซึ่งมิใช่ธุรกิจหลักของบริษัท รวมถึงสัดส่วนการลงทุนในกิจการร่วมค้าไปให้แก่บุคคลอื่น
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันนี้ (12 ก.ค.2561) NWR ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของประเทศไทยถึงกรณีที่บริษัทฯ ยื่นฟ้อง บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จํากัด กับพวกรวม 5 ราย ในคดีโครงการ ระบบรวบรวมและบําบัดน้ำเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 242,544,134.91 บาท โดยผลคําพิพากษาฎีกาในคดีดังกล่าว บริษัทเป็นผู้ได้รับชําระเงินจาก บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จํากัด กับพวกรวม 5 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 288,549,928.23 บาท
โดยค่าเสียหายที่ได้รับจำนวน 288,549,928.32 บาท ประกอบด้วย ค่าผลงานรวมถึงอุปกรณ์ที่ทําและส่งมอบแล้ว จำนวน 242,544,134.91 บาท, ค่าดอกเบี้ยเป็นค่าปรับในอัตราร้อยละ 15 จำนวน 36,381,620.24 บาท และค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันธนาคาร รวม 8 ฉบับ จำนวน 9,624,173.17 บาท