TMB วอลุ่มหนา-บวกคึก 4% คาดเก็งกำไรก่อนแจ้งงบฯ Q2/61 โบรกฯแนะซื้อเป้า 2.85 บาท
TMB วอลุ่มหนา-บวกคึก 4% คาดเก็งกำไรก่อนแจ้งงบฯ Q2/61 โบรกฯแนะซื้อเป้า 2.85 บาท โดย ณ เวลา 12.11 น. อยู่ที่ระดับ 2.50 น. บวก 0.10 บาท หรือ 4.17% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 409.23 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ณ เวลา 12.11 น. อยู่ที่ระดับ 2.50 น. บวก 0.10 บาท หรือ 4.17% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 409.23 ล้านบาท
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ – ใกล้ประกาศงบ 2Q61 คาดการณ์กำไรจึงมีความสำคัญ DBS พบว่า สำหรับ 8 ธนาคารที่วิเคราะห์ คาดว่ากำไรสุทธิ ไตรมาส 2/61 จะอยู่ที่ 40.3 พันล้านบาท (+3.6%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -11.3%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) โดย KTB จะมีกำไรเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานกำไรปีก่อนต่ำและปีนี้ตั้งสำรองฯน้อยลง
ส่วนธนาคารที่ประมาณการว่าจะมีกำไรก่อนสำรองฯไตรมาสนี้โต เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า คือ TCAP (+14.7%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, +4.1%เทียบไตรมาสก่อนหน้า) ขณะที่ KBANK, SCB และ TMB คาดว่าจะมีกำไรก่อนสำรองฯลดลงทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า ด้านผลจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมผ่านระบบดิจิตอลแบงค์กิ้งตั้งแต่ปลายมี.ค.61 คาดว่า SCB จะมีค่าใช้จ่ายด้านนี้มากที่สุด
ขณะที่ KBANK จะถูกกระทบเรื่องรายได้ค่าธรรมเนียมที่ลดลงมากสุด ให้ BBL และ TMB เป็นหุ้น Top Picks – คาดว่าทั้งสองธนาคารจะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกค่าธรรมเนียมผ่านออนไลน์น้อยกว่าธนาคารอื่น และยังมีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวสดใส ราคาพื้นฐาน 218.00/3.10 บาท ตามลำดับ
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า สินเชื่อ 5M61 โตเพียง +0.6%YTD TMB รายงานตัวเลข ธ.พ.1.1สินเชื่อสุทธิ 5M61 เพิ่มขึ้น +0.6% YTD และ +0.2% QTD ซึ่งยังห่างจากเป้าสินเชื่อทั้งปี 61 ที่ TMB ตั้งไว้ โต 8-10% ยังเชื่อว่าสินเชื่อจะเร่งตัวใน 2H61 จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน แต่คงต้องจับตาดูอีกทีว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหรือไม่
คาดกำไรไตรมาส 2/61 ทรงตัวทั้ง เทียบไตรมาสก่อนหน้า และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เราคาดการณ์ TMB จะรายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส2/61 ที่ 2.3 พันลบ.หดตัว -1.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ +1.2% เทียบไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลจาก 1) NII ที่ลดลง -3.2% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ -0.5% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากสินเชื่อที่โตน้อยมาก NIM ที่ลดลงทั้ง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากสินเชื่อที่โตมาจากสินเชื่อธุรกิจที่มี yield ต่ำ 2) OPEX ที่เพิ่มขึ้น +3.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน/+5.4%เทียบไตรมาสก่อนหน้า แม้ว่า 3) จะคาดว่ารายได้ค่าธรรมเนียมจะเพิ่มขึ้น +7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน /10.4% เทียบไตรมาสก่อนหน้า จากธุรกิจบลจ.และ Bancassurrance
ในเบื้องต้นยังคงประมาณการกำไร FY61F ไว้ที่เดิม ในเบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไร FY61F ไว้ที่ 1 หมื่นลบ. (+15%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดย Key Drivers หลักในปีนี้คือ รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโตดี และการตั้งสำรองที่คาดว่าจะลดลง อย่างไรก็ดี จากสินเชื่อที่แทบจะไม่โต คงรองบไตรมาส2/61 ออกมาก่อน และหากรายได้ค่าธรรมเนียมไม่มาตามคาด คงมีการประเมินใหม่อีกครั้ง
ปรับราคาเป้าหมายลง แต่ยังคงแนะนำ “ซื้อ” จากการประเมินโดยวิธี GGM โดยเราปรับ Long term ROE ลงจาก 11.2% โดยใช้ ROE18F ที่ 10.7% โดยยังคง LTG ที่ 7.5% และ COE ที่ 10% จะได้ Target PBV18F ที่ 1.3X ทำให้ราคาเป้าหมายปรับลงมาอยู่ที่ 2.85 บ. ราคาหุ้นปัจจุบันปรับลดลงมามากจากปัจจัยภายนอก ยังแนะนำ “ซื้อ” ลงทุนระยะยาว