BKD พุ่ง 4% รับงบฯ Q2 โตเด่น ผบห.ลั่นรับรู้ Backlog อย่างต่ำพันล้าน!
BKD พุ่ง 4% รับงบฯ Q2 โตเด่น ผบห.ลั่นรับรู้ Backlog อย่างต่ำพันล้าน! โดยล่าสุด ณ เวลา 12.22 น. อยู่ที่ระดับ 3.30 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 3.77% สูงสุดที่ระดับ 3.32 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.14 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD ณ เวลา 12.22 น. อยู่ที่ระดับ 3.30 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 3.77% สูงสุดที่ระดับ 3.32 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.22 บาท มูลค่าการซื้อขาย 7.14 ล้านบาท
โดยวันนี้ (16 ก.ค. 61) นางสาวณัฐนันท์ ประสงค์ชัยกุล ผู้จัดการทั่วไปของ BKD เปิดเผย ผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ทีวีดิจิทัลช่อง 19 และสถานีวิทยุกระจายเสียงกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) FM 102 MHz. ว่า บริษัทมั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/61 จะเติบโตได้ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเป็นงานที่บริษัทมีความถนัด และมีการจัดการต้นทุนที่ดี
โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่ระดับ 2 พันล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ยาว 2 ปี ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้เข้ามาครึ่งหนึ่งหรือประมาณ 1 พันล้านบาท
ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำหนดคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BKD ให้ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท โดยล่าสุดจำนวนแบ็กล็อกที่มีอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท ถือเป็นสถิติสูงสุดของ BKD คาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2561 ประมาณ 1,400 ล้านบาท และส่วนที่เหลืออีก 600 ล้านบาท จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2562 ซึ่งงานในมือที่มีอยู่ขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นงานตกแต่งภายในโรงแรม โรงพยาบาล จึงถือเป็นงานที่ BKD มีความเชี่ยวชาญ
โดยทาง BKD ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอผลการประมูลทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เมียนมาและกัมพูชา มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท โดยอิงโอกาสความสำเร็จในอดีตของ BKD ที่ประมาณ 20-30% จะสามารถเพิ่มงานในมือในช่วงที่เหลือของปี 2561 อีกประมาณ 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ยังมองว่าการก้าวเข้าสู่ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ จะเป็นส่วนช่วยหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับ BKD ได้ เพราะพื้นที่ จ.ภูเก็ต มีความต้องการน้ำสูง ซึ่งกำลังการผลิตจากภาครัฐคิดเป็นเพียงแค่ 50% ของความต้องการในพื้นที่ และคาดโครงการน้ำจะเริ่มดำเนินการในรูปแบบเชิงพาณิชย์ได้ในดือน ต.ค. 2561 มีอายุสัญญาเหลือ 25 ปี
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2561 ประเมินทางบริษัทจะพลิกมีกำไรปกติได้จำนวน 30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปีก่อนที่มีผลขาดทุนปกติ 82 ล้านบาท หลังจากมีงานที่บันทึกเข้ามาในไตรมาสนี้ ได้แก่ งาน BDMS Wellness Clinic, โรงแรมที่จังหวัดภูเก็ต, เกตเวย์ บางซื่อ, และโครงการที่บริษัททำร่วมกับ ชิป หมง แลนด์ ที่ประเทศกัมพูชา
สำหรับกำไรปกติงวดปี 2561 ของ BKD คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 366% จากงวดปี 2560 ซึ่งเป็นผลจากการทยอยรับรู้รายได้ มูลค่างานในมือที่มีอยู่ประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงานปรับปรุงตกแต่งให้กับโรงแรมชั้นนำ ขณะเดียวกัน ยังคาดว่าจะเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจบริหารจัดการน้ำตั้งแต่ในช่วงเดือน ต.ค. 2561
โดยการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจน้ำจะอยู่ภายใต้สมมติฐานที่ระดับการจ่ายน้ำ 20,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และรับรู้ตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ 40% อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิงวดปี 2561 จะลดลง 48% จากปีก่อน เนื่องจากในปี 2560 มีการบันทึกกำไรจากการขายที่ดินประมาณ 367 ล้านบาท